บมจ.ออลล่า (ALLA) ประกาศความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท โดยคาดว่าจะมีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหุ้น IPO ภายในเดือน ต.ค.และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในช่วงต้นเดือน พ.ย.59
นายธวัชชัย วรวรรณธนะชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ALLA เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ALLA จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ขณะที่บริษัทยังมีบริษัทย่อย 1 แห่ง คือ บริษัท ออนวัลล่า จำกัด โดย ALLA ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว
“จากการทำงานที่ผ่านมาจนปัจจุบันก.ล.ต.ได้นับหนึ่งไฟลิ่งแล้วนั้น ถือว่าทุกระบวนการของ ALLA เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ และเรามีความพร้อมในทุกด้านในการเดินหน้ากระบวนการต่อๆไปในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และด้วยทีมผู้บริหารของ ALLA ที่ล้วนแล้วแต่มีความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ รวมถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจ ทำให้เราเชื่อว่า ALLA จะเป็นหุ้นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน"นายธวัชชัย กล่าว
ทั้งนี้ ALLA มีแผนจะใช้เงินจากการระดมทุนในการขยายคลังสินค้าและโรงงาน รวมถึงขยายกิจการ โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมในประเทศอินโดนีเซียเพื่อดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกับในประเทศไทย โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในช่วงไตรมาส 1/60 หรือไตรมาส 2/60 ซึ่ง ALLA จะมีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 33% ในบริษัทร่วมทุนดังกล่าว
นายองอาจ ปัณฑุยากร กรรมการผู้จัดการ ALLA กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้า (Crane and Hoist) และเป็นผู้นำเข้า และจำหน่าย พร้อมติดตั้ง สะพานปรับระดับ (Loading Dock Leveler) ประตูอุตสาหกรรม (Industrial Door) ม่านริ้วพีวีซี (PVC Strip Curtain) และม่านตัดอากาศ (Air Curtain) รวมถึงการให้บริการหลังการขาย เช่น งานซ่อม งานเปลี่ยนอะไหล่ งานบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) และบริการศูนย์ฝึกอบรมผู้ใช้เครน โดยมีกลุ่มลูกค้าในธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่หลากหลายเช่น กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า และธุรกิจต่างๆ เป็นต้น
บริษัทมีสัดส่วนรายได้จาก 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้า (Crane and Hoist) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก 60% ธุรกิจบริการ 20 % และอีก 20% เป็นธุรกิจขนส่ง โดยมีลูกค้าในธุรกิจและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า และธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็มีงานในมือจำนวนมาก และเชื่อว่าจะเข้ามาอีกมาก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการกลับมาลงทุนมากขึ้นของภาครัฐและเอกชน
“เรามีความพร้อมในทุกด้าน และหลังจากนี้การทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนจะเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเราเองมีความยินดีที่กระบวนการต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ และเราหวังว่าบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตให้กับบริษัท เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต"นายองอาจ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 56-58) มีรายได้จากการขายและบริการรวมในปี 56 จำนวน 924.10 ล้านบาท กำไรสุทธิ 189.90 ล้านบาท ส่วนปี 57 มีรายได้จากการขายและบริการรวม 1.06 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 173.00 ล้านบาท และปี 58 มีรายได้จากการขายและบริการรวม 870.27 ล้านบาท กำไรสุทธิ 100.62 ล้านบาท
ขณะที่รายได้จากการขายและบริการรวมของช่วง 6 เดือนแรกของปี 59 อยู่ที่ 292.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28.89 ล้านบาท
ด้านนายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับ ALLA กล่าวว่า ALLA มีแผนจะเดินสายนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุน (โรดโชว์) โดยมีเป้าหมายพบและให้ข้อมูลกับนักลงทุน 4 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ โดยเชื่อว่า ALLA จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนด้วยทีมงานผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการเป็นผู้ผลิต จำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
“เรามีความเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดีกับ ALLA เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ซึ่งการเดินทางโรดโชว์ในครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงลักษณะของการประกอบธุรกิจ และจุดเด่นของ ALLA ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้ทราบถึงข้อมูล และเห็นถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจของ ALLA และวิสัยทัศน์ในการบริหารงานของผู้บริหารอีกด้วย"นายนิมิต กล่าว