เอเชีย เวลท์ คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งกรอบแคบรอความชัดเจน"ดอยซ์แบงก์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 3, 2016 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงผันผวน ส่วนตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวในกรอบแคบๆ อาจมีโอกาสปรับเป็นบวกเล็กน้อย จากกรณีประเด็นเรื่องดอยซ์แบงก์ที่น่าจะดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เรื่องจำนวนค่าปรับที่ทางธนาคารต้องจ่ายให้ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน ตลาดหุ้นทั้งโลกจะยังผันผวนอยู่ ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินค่าปรับไม่น่าจะถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ในสหรัฐฯ มองว่าจะอยู่ระหว่าง 6,000-14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าดอยซ์แบงก์คงต้องรีบ เพราะหากเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วยังตกลงเรื่องค่าปรับไม่ได้ ความไม่แน่นอนจะยิ่งมากขึ้นเป็นผลเสียต่อธนาคาร

นอกจากนี้ ในสหรัฐฯ ยังมีธนาคารอื่นที่กำลังประสบปัญหาใหญ่ด้านการจัดการเช่นกันเช่น Wells Fargo ทั้งนี้ในกรณีของดอยซ์แบงก์นั้น รัฐมนตรีคลังของออสเตรีย ประเมินว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการบริหารงานที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ไม่ใช่เพราะมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงมองว่าเป็นความเสี่ยงเฉพาะธนาคาร ไม่ใช่ทั้งระบบ และน่าจะเป็นปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น

ด้านตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของทางการจีนเดือน ก.ย.ที่ออกมาทรงตัว 50.4 เท่ากับในเดือน ส.ค.ถือว่าดี เพราะยืนเหนือระดับ 50 อันบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เป็นบวกต่อตลาดหุ้น แต่เนื่องจาก สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนปิดทำการทั้งสัปดาห์เนื่องจากเป็นสัปดาห์วันชาติจีน จึงทำให้ไม่ค่อยมีผลเท่าไรนักต่อหุ้นจีน

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น ดังนั้น คำแนะนำในการลงทุน ให้เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและปันผลดี เพราะเราประเมินว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะทยอยฟื้นตัว ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ราคาเป้าหมาย 32 บาท จากการคาดการณ์ว่ากำไรจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและทิศทางในระยะยาวจะยิ่งสดใส แม้ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/59 จะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก (QoQ) เนื่องด้วยเทศกาลถือศีลอดในประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางที่ทำให้จำนวนคนไข้จากตะวันออกกลางลดลง แต่เราคาดว่ากำไรของ BDMS จะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีต้อนรับช่วงไฮซีซั่นและไม่มีเทศกาลถือศีลอด

BDMS แจ้งว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อที่ดินบริเวณโครงการปาร์คนายเลิศ ซึ่งรวมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว บริษัทตั้งใจที่จะพัฒนาที่ดินและอาคารเหล่านี้ให้เป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร “BDMS Wellness Clinic" สอดคล้องกับกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มูลค่าการซื้อขายและงบประมาณการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท โดย 1.08 หมื่นล้านบาทเป็นมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนอีก 2 พันล้านบาท เป็นงบประมาณการลงทุน

ถึงแม้ว่าการลงทุนขนาดใหญ่นี้จะกดดันกำไรในช่วง 2-3 ปีแรกก็ตาม แต่ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่าธุรกิจศูนย์สุขภาพครบวงจรนี้จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับบริษัทในระยะยาวเนื่องจากให้อัตรากำไรที่สูงเมื่อเทียบกับบริการประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ BDMS จะยังคงแผนขยายเครือข่ายโรงพยาบาลให้เป็น 50 โรงพยาบาล รวมถึงพัฒนาโรงพยาบาลแม่ข่ายทั้ง 9 แห่งให้เป็น Centers of Excellence ซึ่งการขยายเครือข่ายและพัฒนาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทในการเข้าถึงคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น บล.เอเชีย เวลท์ จะยังคงประมาณการกำไรปกติของ BDMS ในปี 59 ไว้ที่ 8.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% YoY แต่ปรับลดกำไรปกติปี 60 ลงมาอยู่ที่ 9.5 พันล้านบาทเพื่อสะท้อนการลงทุนข้างต้น ซึ่งการปรับลดนี้ทำให้กำไรปี 60 เติบโตอย่างชะลอตัวที่ 6.5% ก่อนที่จะกลับมาเติบโต 15.0% อีกครั้งในปี 61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ