โบรเกอร์พ้องใจเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) ปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้นและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 60 จากการขาดแคลนปู่ย่าพันธ์ไก่ที่กรมปศุสัตว์ห้ามนำเข้าจากสหรัฐ ทำให้ซัพพลายในประเทศตึงตัว ผลักดันราคาปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียกวัน ซัพพลายจากจีนก็ลดลงด้วย ช่วยให้ราคาส่งออกไก่ดีขึ้น ประกอบกับ ราคาต้นทุนวัตถุดิบอยู่ในระดับไม่สูงนับเป็นวัฎจักรขาขึ้นรอบใหญ่ของอุตสาหกรรมไก่
ทั้งนี้ ในปี 59 คาดว่ากำไรในปี 59 เติบโต 19-23% อยู่ที่ 1,424-1,474 ล้านบาท ส่วนในปี 60 คาดกำไรอยู่ที่ 1,511-1,598 ล้านบาท
ราคาหุ้น GFPT ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 15.50 บาท เพื่มขึ้น 0.80 บาท (+5.44%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
กรุงศรี Outperform 18.00
บัวหลวง ซื้อ 16.00
โนมูระพัฒนสิน ซื้อ 16.00
ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 16.00
ฟิลลิป ทยอยซื้อ 15.70
นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า อุตสาหกรรมไก่เนื้อมีทิศทางที่ดีขึ้น ตามราคาเนื้อไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งราคาที่ขายในประเทศและราคาส่งออก เนื่องจากขาดแคลนปู่ย่าพันธุ์ในช่วงที่ผ่านจากปัญหาไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ส่งผลให้ไม่สามารถนำเข้าได้ ขณะที่การส่งออกไปญี่ปุ่นดีขึ้น เนื่องจากคู่แข่งสำคัญอย่างจีนไม่สามารถนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ได้เช่นเดียวกัน ขณะที่แนวโน้มราคาวัตถุดิบคงไม่ได้ปรับขึ้นมากอย่างที่ตลาดกังวลไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงานครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ คาดว่าราคาไก่ยังอยู่ในระดับสูงต่อไปตลอดทั้งปีนี้ และต่อเนื่องไปถึงช่วงครึ่งแรกของปี 60 ทำให้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ผลประกอบการน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะอยู่ในฤดูกาลส่งออก คาดการณ์ผลกำไรในปี 59 ปรับใหม่ดีขึ้นเป็นเติบโต 23% จากปีก่อนที่มีกำไร 1,474 ล้านบาท จากเดิมที่มองว่าแย่ลงเพราะราคาไก่ในไตรมาส 1/59 ไม่ค่อยดี และในปี 60 คาดว่าจะมีกำไร 1,511 ล้านบาท เติบโต 3% ทั้งนี้ แนะนำทยอย"เข้าซื้อ"ราคาเป้าหมาย 15.70 บาท
นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะนำ"ซื้อ"หุ้น GFPT ที่ราคาเป้าหมาย 17 บาทในปี 60 แม้ว่าราคาไก่ช่วงนี้ปรับตัวลงบ้างในช่วงเทศกาลกินเจ และภาวะน้ำท่วมพื้นที่เลี้ยงไก่ที่ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ต้องเร่งนำไก่ออกมาขาย ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงบ้าง แต่จากภาวะโดยรวมซัพพลายยังตึงตัว เนื่องจากการห้ามนำเข้าปู่ย่าพันธุ๋จากสหรัฐที่มีการแพร่ระบาดไข้หวัดนก และคาดว่ากรมปศุสัตว์จะห้ามนำเข้าไปถึงไตรมาส 2/60 รวมทั้งจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรายใหญ่ก็ประสบกับปัญหาเดียวกัน ทำให้ราคาส่งออกดีขึ้น
"ภาพใหญ่ ซัพพลายน่าจะตึงตัวไปถึงกลางปีหน้า จีนห้ามนำเข้าเหมือนเรา ทำให้การส่งออกไก่ของเรามีราคาสูงขึ้น และญี่ปุ่นก็หันมาเพิ่มออเอร์กับผู้ผลิตไทยและมีคุณภาพดีกว่า"นายประสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ราคาไก่ในประเทศ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 43-45 บาท/กก. แต่ในช่วงเดือน ก.ย.ราคาลดลงมาที่ 35-37 บาท/กก.เนื่องจากภาวะน้ำท่วมทำให้ผู้เลี้ยงเร่งระบายไก่ออกมา แต่คาดว่าราคายังสามารถไต่ระดับกลับขึ้นมาได้ ประกอบกับ ต้นทุนวัตถุดิบปีนี้ไม่สูงทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองส่งผลดีต่อ GFPT
ดังนั้น จึงปรับคาดการณกำไรของ GFPT ในปี 59 ขึ้นมาเป็น 1,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% และ ปี 60 คาดมีกำไร 1,598 ล้านบาท เพิ่มชึ้น 12%
ด้านบทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรี แนะนำ"ซื้อ"หุ้น GFPT เช่นกัน โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 18 บาท อิงจาก P/E ปี FY17F ที่ 13x มองว่า GFPT เป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการที่อุตสาหกรรมไก่อยูในขาขึ้นรอบใหญ่
ทั้งนี้ GFPT เป็นผู้ผลิตไก่ครบวงจรซึ่งมีความสามารถในการแปรรูปวันละ 262,000 ตัว คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 7% ในประเทศไทย โดยยอดขายอาหารสัตว์ ไก่เป็น เนื้อไก่สด และไก่แปรรูป คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของรายได้รวม ในขณะที่อีก 30% จะมาจากการส่งออก และ การส่งออกทางอ้อมผ่าน JV กับพันธมิตร
คาดว่ากำไรสุทธิของ GFPT จะโต 17% CAGR ในช่วงปี 59-61 โดยได้แรงหนุนจาก 1) ราคาอาหารสัตว์ที่ถูกลงเนื่องจากอุปทานถั่วเหลือง และข้าวโพดเพิ่มขึ้นตามสภาวะอากาศที่เอื้ออำนวยในปี 60 ; 2) วัฎจักรขาขึ้นรอบใหญ่ของราคาไก่ที่ยาวขึ้น จากอุปทานที่ตึงตัวขึ้นในภูมิภาคหลังจากที่มีการห้ามนำเข้าสต็อกไก่รุ่นปู่ย่าจากประเทศที่มีปัญหาโรคไข้หวัดนก และ 3) การขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% ในไตรมาส 4/60 เป็น 318,000 ตัว/วัน มองว่าปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นคือผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/59 จากราคาไก่เร่งตัวขึ้นและปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น +5% yoy