นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ มองกรอบดัชนีที่ 1,500-1,515 จุด เนื่องจากแรงซื้อของนักลงทุน 2 กลุ่ม ต่างชาติและกองทุนฯ ยังเอาแน่นอนไม่ได้ เลยทำให้ตลาดดูไร้ทิศทาง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกนำอยู่ตลาดเดียว ตลาดอื่นๆ มีลบให้เห็น
ตัวช่วยให้ Dow Jones ออกมาดี มีทั้งตัวเลข ISM (service) สูงขึ้นจาก 51.4 จุด เป็น 57.1 จุด ในเดือนที่ผ่านมา คำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน เพิ่ม 0.2% จากเดือนก่อนเช่นกัน ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน หรือ ADP ตัวเลขเพิ่มขึ้น 1.54 แสนตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งผลจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีแบบนี้ ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี
ในทางตรงกันข้ามจะเป็นลบต่อราคาพันธบัตรกับทองคำ เพราะทำให้โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการประชุมเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น (Fed Fund Rate Implied Probabilities เดือน พ.ย.ขึ้นจาก 21% เป็น 23.6% ในวันที่ผ่านมา)
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้ผลบวกจากตัวเลข Stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIA ว่าลดลง 3.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ ผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC กับ Non-OPEC) จะมีการประชุม (Informal Meeting) ในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นคือ 12 ต.ค. คาดว่าจะเพื่อตัดสินใจโควต้าการผลิต ก่อนที่จะประชุมจริง 30 พ.ย.นี้ บล.KTBST มองว่า ผลประโยชน์ที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะได้จากการลดกำลังการผลิตจะมากกว่าที่จะผลิตเท่าเดิมแต่ได้ราคาที่ต่ำกว่ามาก โอกาสที่การประชุมครั้งนี้จะสำเร็จ จึงมีค่อนข้างสูงเป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมันโดยตรง รวมไปถึงผู้ผลิตปิโตรเคมี ที่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันและภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มดีขึ้นด้วย
ส่วนประเด็นอื่นอย่างกรณีค่าปรับ Deutsche Bank เป็นบวกเพียงชั่วคราวเพราะยังมีอีกหลายกรณีที่ธนาคารอาจถูกฟ้อง ส่วนข่าวที่ว่าธนาคารบางแห่งอย่าง BOJ-ECB กำลังพิจาราณาลด QE ลง นั้นกำลังถูกจับตาเพราะมีผลต่อกระแสเงินลงทุนและระดับดอกเบี้ยในตลาดโดยตรง ทำให้การประชุม ECB 20 ต.ค. นี้ ตลาดจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ปัจจัยของไทยเองภาพเศรษฐกิจยังดี รัฐบาลหนุนทั้งมาตรการใหม่ๆ และเร่งใช้จ่ายภาครัฐ แต่แรงซื้อของนักลงทุน 2 กลุ่ม ต่างชาติ+กองทุนฯ ยังเอาแน่นอนไม่ได้ เลยทำให้ตลาดดูไร้ทิศทาง การลงทุนในช่วงนี้ จึงต้องระมัดระวัง และในวันพรุ่งนี้เอง จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ด้วยซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์
"กลยุทธ์การลงทุน จากการตลาดช่วงสั้นๆ ยังมีความผันผวนสูงจากการซื้อ-ขาย ของนักลงทุนกลุ่มใหญ่คือ สถาบันฯและนักลงทุนต่างประเทศที่ยังไม่แน่นอน ในเชิงกลยุทธ์ยังแนะนำให้ลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ และควรพิจารณาจากหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหรือหุ้นที่มีการประเมินกำไรไตรมาสที่ 3 ประกอบกันไปด้วย หุ้นที่น่าสนใจวันนี้สำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ PTTEP,BANPU,BDMS,LOXLEY,PSTC,LPH"นายมงคล กล่าว