(เพิ่มเติม) UREKA คาดแนวโน้มผลงาน H2/59 โตว่า H1/59,จ้าง"พีเอ็นไครส์"ถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างระบบคลังสินค้าหวังต่อยอดธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 6, 2016 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA) คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้ ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี จากออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ล่าสุดได้เซ็นสัญญาจ้างถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ ASRS (Automated Storage/Retrieval systems) กับบริษัท พีเอ็นไครส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครนอัตโนมัติและอุปกรณ์ลำเลียง สำหรับคลังสินค้าอัตโนมัติ ระบบ ASRS หวังต่อยอดธุรกิจหนุนรายได้เพิ่มในปี 60

"เมื่อวานเราก็ได้มีการเซ็นสัญญากับพันธมิตร ในการดำเนินธุรกิจด้าน Logistic Automation หรือ ระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ จากงานดังกล่าวมีมาร์จิ้นที่สูง รวมถึงส่งผลดีต่อรายได้อีกด้วย"นายนรากร กล่าว

นายนรากร กล่าวว่า ขอบเขตสัญญาดังกล่าวนั้น ผู้ถ่ายทอดยินยอมถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งผ่านการพัฒนาที่สมบูรณ์แล้ว คือ การออกแบบ และจัดสร้าง เครื่องจักร เรียกว่า Stacker Crane และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเขียนโปรแกรมควบคุม Stacker Crane เพื่อการทำงานอย่างอัตโนมัติ ในระบบ ASRS ทั้งนี้ ยกเว้น WCS และ WMS

UREKA มีสิทธิในการนำเทคโนโลยีของผู้ถ่ายทอดไปดำเนินการออกแบบ ผลิตเพื่อใช้ หรือขาย ซ่อมบำรุง และพัฒนาเพื่อขาย ภายในประเทศไทยและต่างประเทศ แบบจำกัดสิทธิให้แก่บริษัทในสองปีแรก บริษัทไม่สามารถ่ายทอดให้ผู้อื่นต่อหรือใช้ในกรณีอื่นนอกเหนือจากสัญญา

นายนรากร มั่นใจว่าการร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่งจะเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ในการรับงานด้าน Logistic Automation เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตามแผนงานที่วางไว้ โดยธุรกิจดังกล่าวนับว่ามีมาร์จิ้นสูงในระดับตัวเลข 2 หลัก รวมถึงอุตสากรรมในขณะนี้เริ่มหันมาใช้นวัตกรรมดังกล่าวมากขึ้น จะเห็นได้จากแผนการลงทุนของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่หันมาลดต้นทุนในเรื่องของการผลิต และการจัดเก็บ

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าไปวางระบบ โดยคาดหวังจะได้รับงานระบบคลังสินค้าอัตโนมัติราว 1-2 งาน มูลค่ารวมประมาณหลักร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นงานวางระบบคลังสินค้าอัตโนมัติให้กับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภค และหากได้รับงานดังกล่าวจะส่งผลต่อรายได้ที่จะเข้ามาในปี 60 โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ในปี 60 จะอยู่ที่ 20-25% ของรายได้รวม

สำหรับปีนี้ ยังมั่นใจว่าจะทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ 320 ล้านบาท ลดลงจากระดับ 378 ล้านบาทในปีที่แล้ว เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกปีนี้ทำรายได้ได้เพียง 135 ล้านบาท เนื่องจากโครงการแนวทางประชารัฐในการลงทุนในระดับชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งทางรัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 7.9 หมื่นกองทุนนั้น บริษัทได้รับงานเพียง 30 หมู่บ้าน จากเดิมที่คาดหวังที่จะได้รับงานราว 1 % หรือราว 700 หมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 150 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 100 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 60 และยังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานเพิ่มอีก ได้แก่ งานกลุ่มเครื่องจักร และงานระบบช่วยเหลือการผลิต มูลค่ารวมราว 100 ล้านบาท ถ้าหากได้รับงานดังกล่าวก็น่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาบางส่วนในปีนี้

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 60 บริษัทมีแผนลงทุนเครื่องจักรเพิ่ม ในสาขาที่ประเทศอินเดีย เพื่อดำเนินการผลิตชิ้นส่วนเอง จากปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตชิ้นส่วน และจะเพิ่มสินค้าใหม่ ในกลุ่มเครื่องจักรกล จากเดิมที่มีสินค้าในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ,เกษตร,พลาสติก เป็นต้น รวมถึงธุรกิจโปรดักชั่น ออโตเมชั่น ซึ่งจะขยายไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมคอนซูเมอร์โปรดักซ์ และกลุ่มอาหารมากขึ้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ