ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,513.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.94 จุด (+0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 50,999.17 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,518.23 จุด ส่วนดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,509.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 633 หลักทรัพย์ ลดลง 515 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 370 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ แต่อิงในทางบวกเป็นส่วนใหญ่คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น โดยรับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดียังต้องติดตามดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาไม่ดีมากนัก
สำหรับตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเช่นกัน จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และยังได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ด้วยจากการเข้ามาเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/59 ที่คาดว่าจะออกมาดี ซึ่งผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะทยอยออกมาในสัปดาห์หน้า ขณะที่การซื้อขายของหุ้นในกลุ่มสื่อสารไม่ดีมากนัก หลังการประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุดได้ประเมินกันว่างบฯไตรมาส 3/59 น่าจะออกมาไม่ดี
อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมถือว่าไม่สูงมากนัก ทำให้ภาพขาขึ้นของตลาดยังไม่ชัดเจนมากนัก แม้ดัชนีฯจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้ แต่ด้วยวอลุ่มเทรดที่ยังไม่สูง ทำให้อาจมีการปรับฐานอีกก็ได้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ และอาจผันผวนได้เหมือนกัน พร้อมให้แนวรับ 1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,535 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,419.87 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BCPG มูลค่าการซื้อขาย 2,299.21 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,021.80 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,597.82 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,391.27 ล้านบาท ปิดที่ 194.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท