นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทั้งความกังวลเรื่องเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ในยุโรป จากกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะทำการปรับธนาคาร Deutsche Bank มูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Royal Bank of Scotland (RBS) คล้ายกับ Deutsche Bank ที่มีการออกขายตราสาร Mortgage Backed Securities (MBS) ก่อนเกิดเหตุการณ์ ที่เลห์แมน บราเธอรส์ ล้มละลาย ทุกฝ่ายกำลังจับตารอดูว่าจะโดนปรับเหมือน Deutsche Bank หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีธนาคารในอิตาลีที่มีปัญหาเรื่องหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) รวมทั้งธนาคาร เวลส์ ฟาร์โก ในสหรัฐฯ ที่กำลังถูกทางการเล่นงานจากเหตุข้อมูลลูกค้ารั่วไหล
ด้านอังกฤษ ค่าเงินปอนด์ ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศจะเริ่มการ Brexit ในเดือน มีนาคม 2560 ซึ่งจะส่งผลให้อังกฤษต้องเผชิญปัญหาหนักในด้านเศรษฐกิจ และการเงิน
ปัจจัยที่สำคัญอีกประการ คือ แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Federal Reserve ที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้น หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) เดือน ก.ย. ออกมาที่ระดับ 1.56 แสนตำแหน่ง และก่อนหน้านี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดี เช่น ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และตัวเลขการว่างงาน ทำให้มีความเป็นไปได้สูงถึง 65% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนธ.ค. นี้
ด้านปัจจัยในประเทศ คาดว่าไตรมาส 3 ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนน่าจะออกมาดี และคาดว่าตลอดทั้งปี กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตอยู่ที่ 30% โดยตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในขาขึ้น โดยรัฐบาลมีการอนุมัติงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ ๆ ซึ่งจะผลักดันให้ภาคเอกชนลงทุนต่อไป แต่จากแรงกดดันในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ทำให้คาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ อาจปรับตัวลดลงมากกว่าขึ้น โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,481-1,519 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง เพื่อชดเชยกับราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน
สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อหุ้นของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ราคาเป้าหมาย 2.24 บาท โดยมองแนวโน้มการดำเนินงานที่ยังสดใส หุ้น Undervalued และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดีมาก 6.8% โดย SIRI จะมีการโอนโครงการขนาดใหญ่จำนวนมากในไตรมาส 3 และ 4 ไฮไลท์ของการโอนโครงการในไตรมาส 4/59 จะประกอบด้วย The Line สุขุมวิท 71 เป็นโครงการคอนโดมีเนียมร่วมทุนกับ BTSG โครงการแรก และ The 39 ซึ่ง SIRI ถือหุ้น 100%
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งในไตรมาส 4/59 จะเปิดตัวถึง 6 โครงการ มูลค่ารวม 28,700 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 1 โครงการ และคอนโดมีเนียม 5 โครงการ โครงการสำคัญ ได้แก่ 98 Wireless มูลค่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จและพร้อมโอนตั้งแต่ ต.ค.59 โครงการที่ 2 The Monument ทองหล่อ 6,000 ล้านบาท โครงการที่ 3 The Line พหลโยธิน (ประดิพัทธ์) 5,000 ล้านบาท โครงการที่ 4 The Line สุขุมวิท 101 มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการที่ 5 โครงการที่ยังไม่เปิดเผย 4,000 ล้านบาท
"คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตแข็งแกร่ง 20.3% ในปี 2559 และเติบโต 9.4% ในปี 2560 ปัจจุบันเทรดที่ PER ปี 2559 ที่ 8.0 เท่าและ PBV 0.95 เท่า อัตราปันผลตอบแทนสูงถึง 6.8% แนะนำซื้อ ทางเทคนิค รูปแบบราคากลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นจากการเกิดสัญญาณซื้อรายวันครั้งใหม่ ขณะที่ยังคงถูกกดดันจากทั้งสัญญาณขายในรายสัปดาห์และรายเดือน"นายวรุตม์ กล่าว