นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุม กสทช. ได้รับทราบรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีพนักงานบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปให้บุคคลภายนอก ซึ่งเรื่องนี้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่แต่งตั้งโดยสำนักงาน กสทช. ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว จากนั้นได้นำเสนอต่อที่ประชุม กทค.
และที่ประชุม กสทช. ในวันนี้มีมติเห็นชอบให้มอบหมายสำนักงาน กสทช. เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก กสทช. ไปดำเนินคดีอาญาโดยการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ที่กำหนดให้ กสทช. เป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ โดยจะไปดำเนินการร้องทุกข์ในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) เพื่อแจ้งขอกล่าวหากับพนักงานของ AWN ที่ได้นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปให้บุคคลภายนอก ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ที่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ก็จะเป็นเรื่องของกระบวนการที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
ในส่วนของการคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชน สำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือแจ้งตักเตือนไปยัง AWN ให้มีความระมัดระวังอย่าให้พนักงานที่อยู่ภายใต้การดำเนินการนำข้อมูลของลูกค้าไปเปิดเผยเพราะจะมีความผิดตามพ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ที่กำหนดไว้ และจะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนรายอื่นๆ ทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดในอนาคตข้างหน้าด้วย
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ AWN นั้น ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่แต่งตั้งโดยสำนักงาน กสทช. พบว่าบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของพนักงานดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวนตามกฎหมายอาญา ซึ่งผลการสอบสวนออกมาอย่างไร กสทช. และสำนักงาน กสทช. ก็จะนำผลที่ได้มาประกอบการพิจารณาในการดำเนินการในส่วนอื่นต่อไป
สำหรับการกำกับดูแลได้มอบหมายให้รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ไปเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะให้มีการตรวจสอบกระบวนการในการนำข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆไปใช้ อาทิ กรณีมีหมายศาล หรือกรณีหน่วยงานความมั่นคงร้องขอ เมื่อให้ข้อมูลไปแล้วจะต้องมีกระบวนการที่ตรวจสอบได้ว่าไม่ได้มีการนำข้อมูลส่วนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่หน่วยงานร้องขอมาให้ไปด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช. ได้รับทราบ มติที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 24/2559 เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2559 ที่มีมติเห็นชอบในการเปิดประมูลเบอร์สวยจำนวนทั้งสิ้น 16 เบอร์ ในวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย. 59 ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดราคากลางต่างๆ ได้เห็นชอบในการกำหนดราคาเริ่มต้นการประมูล โดยเบอร์ 9 ตัวเหมือน 2 เบอร์ ได้แก่ 088-888-8888 และ 099-999-9999 ได้กำหนดราคาเริ่มต้นการประมูลที่ 20 ล้านบาท
ส่วนเบอร์ 8 ตัวเหมือนอีก 14 เบอร์ ได้แก่ 088-888-8888 และ 099-999-9999 และเป็นเบอร์ 8 ตัวเหมือนอีก 14 เบอร์ได้แก่ 090-000-0000, 091-111-1111, 092-222-2222, 093-333-3333, 094-444-4444, 095-555-5555, 096-666-6666, 097-777-7777, 098-888-8888, 061-111-1111, 062-222-2222, 063-333-3333, 064-444-4444, 065-555-5555 กำหนดราคาเริ่มต้นการประมูลไว้ที่เบอร์ละ 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่มาของราคาเริ่มต้นดังกล่าว สำนักงาน กสทช. ได้ไปตรวจสอบราคาเริ่มต้นของเบอร์ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันว่าราคาตลาด ถ้าเป็น 7 ตัวเหมือน จะมีการซื้อขายกันในตลาดในราคา 5 ล้านบาท ซึ่งราคาเริ่มต้นการประมูลทั้งหมดที่สำนักงาน กสทช. กำหนดนั้นเป็นราคาที่คิดว่าน่าจะรักษาผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุดแล้ว
สำหรับการประมูลเบอร์สวยกำหนดจัดให้มีการประมูลในวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.59 ณ สำนักงาน กสทช. โดยจะมีการลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 14-25 พ.ย.59 ณ สำนักงาน กสทช. ส่วนกระบวนการในการประมูลจะเป็นการประมูลแบบยกป้าย ซึ่งผู้ที่เสนอราคาให้สูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล สำหรับเงินวางหลักประกันการประมูลกำหนดไว้ที่ 10% ของราคาเริ่มต้นการประมูล
จากนั้น ที่ประชุม กสทช. ได้อนุมัติโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) โครงการประเภทที่ 2 ประจำปี 2558 วงเงินรวมทั้งสิ้น 75,424,964.15 บาท