นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศที่ยังไม่มีปัจจัยเชิงบวกเข้ามา มองว่านักลงทุนทั่วโลกคงอยู่ในช่วงของการปรับพอร์ตการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในช่วงของการปรับฐานและรอดูสัญญาณเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความผันผวนของการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
"จากนี้ไปทิศทางตลาดต่างประเทศคงอยู่ในช่วงของความผันผวน เพราะตัวเลขผลประกอบการของสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดีมากนัก ประกอบกับ ยังมีเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการเลือกตั้งที่ยังต้องติดตามดู ส่วนในประเทศก็ยังมีเรื่องของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะออกมา ซึ่งยังไม่มีข่าวเชิงบวกออกมา ภาพโดยรวม Sentiment ก็ยังเป็นลบ อย่างไรก็ตาม วันนี้มีโอกาสที่ตลาดจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ และมีความผันผวนสูง"
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาควันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ จากยังไม่มีปัจจัยเชิงบวก
พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,450 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,144.20 จุด เพิ่มขึ้น 15.54 จุด (+0.09%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,239.02 จุด ลดลง 7.77 จุด (-0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.18 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด (+0.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 106.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 48.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ต.ค.59) 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด (-2.50%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 390.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ต.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ต.ค.59) ปิดที่ 50.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ต.ค.59) ที่ 5.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.69/73 กลับมาแข็งค่าหลังอ่อนค่าไปมาก ยังกังวลปัจจัยในปท.
- แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาล เปิดเผยถึงกรณีคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบปี 2559-2564 ว่า สำหรับราคาน้ำตาลใหม่ที่จะปรับขึ้นลงอย่างเสรีอิงตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก คาดแนวโน้มราคาคงจะสูงขึ้นจากปัจจุบัน เพราะด้วยความต้องการใช้น้ำตาลในเอเชียที่สูงถึงปีละ 80 ล้านตัน แต่ผลิตได้แค่ปีละ 70 ล้านตัน ย่อมทำให้ราคาปรับขึ้น
- ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ประจำกรุงเทพฯ นำ นายฮิเดโอะ ซูซูกิ กรรมการผู้จัดการบริษัท นิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล คอร์เปเรชั่น หารือร่วมกับนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม โดยญี่ปุ่นมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นฮับในการผลิตเหล็กเกรดพิเศษ จากปัจจุบันที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย และส่งออกในอาเซียน เนื่องจากต้องการหนีปัญหาเหล็กคุณภาพต่ำที่ทุ่มตลาดมาจากประเทศที่ 3 และป้อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลกำลังส่งเสริม
- คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา และให้มีผลบังคับใช้ปี 2560 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
- กฟผ.ยอมรับเศรษฐกิจตก ผลิตไฟเกิน ส่งผลสำรองพุ่ง 30% ตอบรับนโยบาย รมว.ทบทวนตัวเลขใหม่ ชี้เลื่อนโรงไฟฟ้ายากเพราะเสี่ยงต่อความมั่นคง รวมถึง 50% เป็นของเอกชน
- แบงก์ชาติถกสมาคมธนาคารไทย และบริษัทที่ดูแลระบบการเงิน ตัดสินใจเลื่อนใช้ 'พร้อมเพย์' จากเดือนต.ค.นี้เป็นต้นปีหน้า รอทดสอบระบบให้รอบด้านและมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้ คลังชี้ไม่มีปัญหาหากได้ความปลอดภัยสูงสุด
*หุ้นเด่นวันนี้
- COM7 (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 10.45 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ 391 ล้านบาท (+49% YoY)จากการซื้อไอโฟนโดยตรงจากแอปเปิ้ลส่งผลให้ประหยัดต้นทุนราว 2% จากยอดขายไอโฟน 4,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมยกเลิกธุรกิจรับชำระค่าบริการโทรศัพท์แบรนด์ Mango ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุน 30 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ได้เปิดธุรกิจ Banana Sure เพื่อขายเครื่องคอมพิวเตอร์มือสอง อัตรากำไรสูงกว่าขายสินค้าใหม่ โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ Banana Sure และ Banana IT ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ
- VNG (ไอร่า) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 18 บาท คาดในปี 60 ผลงานมีโอกาสทำ New High ภายใต้การรับรู้กำลังการผลิตเต็มที่ทั้ง MDF และ Laminate Flooring เพิ่มขึ้น 24% และ 19% ตามลำดับ ขณะที่มีแผนเข้าร่วมทำโรงไฟฟ้าชีวมวลและไบโอแก๊ซที่คาด กกพ.ประกาศรับซื้อ Q1/60 คาดกำลังการผลิต 9.9 MW (ไม่เกิน 10MW ไม่ต้องทำ EIA) ที่โรงงาน จ.สุราษฏร์ธานี คาดใช้เงินลงทุน 70-80 ล้านบาท
- ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 22.30 บาท คาดกำไร Q3/59 +26% Q-Q, +9% Y-Y เป็น 72 ล้านบาท นอกจาก Q3 จะเป็น High season ของการขายท่อร้อยสายแล้ว บริษัทย่อยพลิกเป็นกำไร และเงินบาทที่แข็งค่าใน Q3/59 ยังส่งผลดีต่อการนำเข้าเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก แต่การอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ คาดกระทบจำกัดเพราะเป็นช่วงที่ราคาเหล็กเริ่มอ่อนตัวลงพอดี แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องใน Q4/59 และคาดปันผลราว 6% ต่อปี
- ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 76 บาท เหตุไฟไหม้ร้านอาหารในศูนย์การค้าแปซิฟิคพาร์คศรีราชาวานนี้ แต่ควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว ห้างโรบินสันศรีราชาที่เช่าพื้นที่อยู่ในศูนย์การค้านั้นไม่ได้เกิดไฟไหม้และเปิดปกติในวันนี้ แทบไม่มีผลกระทบ ส่วนแนวโน้ม Q3/59 ชะลอใน Low season และเหตุระเบิดในหลายจังหวัดในเดือน ส.ค.แต่กำไรจะกลับมาโตเต็มที่ตั้งแต่ Q4/59 จาก 3 สาขาที่ปิด renovate กลับมาเปิดให้บริการและมีสาขาใหม่ 2 แห่งเปิดใน H2/59