TMB เผย Q3/59 ตั้งสำรองฯสูงกว่า 2.5 พันลบ.กดดันกำไรสุทธิลดลง,NPL ลดลงเป็น 2.5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 19, 2016 08:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธ.ทหารไทย (TMB) เผยกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ระดับ 1,845 ล้านบาท ลดลง 14% จากไตรมาสที่แล้ว และลดลง 34.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังตั้งสำรองฯสูงจำนวน 2,541 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารตัดหนี้สูญ (write off) ทำให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารลดลงเป็น 2.5% และมีสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ในระดับสูงที่ 142% ขณะที่สินเชื่อคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลง แม้ว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตต่อเนื่อง

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ TMB กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 59 มีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ ในไตรมาส 3 จำนวน 4,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสที่แล้ว และ 13,833 ล้านบาทในงวด 9 เดือน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว โดยธนาคารตั้งสำรองฯเป็นจำนวน 2,541 ล้านบาทในไตรมาส 3 และจำนวน 6,416 ล้านบาทในงวด 9 เดือน

"ธนาคารยังดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ (Prudence) โดยในไตรมาสนี้ ธนาคารตัดสินใจตั้งสำรองเพิ่มให้ครบ 100% ของ NPL ที่จะตัดบัญชีหนี้สูญ เพิ่มเติมจากปกติ ทำให้ธนาคารมี NPL ลดลงจากไตรมาสที่แล้วเป็น 17,466 ล้านบาท และสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ 2.5% อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ทำให้การตั้งสำรองฯ อยู่ที่ระดับค่อนข้างสูงเป็นจำนวน 2,541 ล้านบาทในไตรมาส 3 และเป็นจำนวน 6,416 ล้านบาทในงวด 9 เดือน เพื่อให้ธนาคารยังคงสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่แข็งแกร่งที่ 142%"นายบุญทักษ์ กล่าว

นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในไตรมาส 3 นี้ สินเชื่อคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลงแม้ว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ สินเชื่อเติบโต 2% ในงวด 9 เดือน ในขณะที่เงินฝากลดลง 5% จากไตรมาสที่แล้ว และลดลง 6% ในงวด 9 เดือน โดยหลักมาจากการบริหารสัดส่วนของเงินฝากให้สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ 97% ทั้งนี้ สัดส่วนเงินฝากธุรกรรมทางการเงิน (Transactional deposit) เพิ่มขึ้นจาก 36% เป็น 38% เป็นผลจากการที่ธนาคารให้ความสำคัญต่อการส่งมอบผลิตภัณท์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ทั้งนี้ ธนาคารยังมีแผนต่อเนื่องที่จะนำเสนอดิจิทัล แบงก์กิ้ง ที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้เต็มที่ โดยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า บัญชี ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี บัญชีเดียวที่ดีที่สุดในประเทศ ด้วยการให้โอนและจ่ายบิลฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยเงินฝาก ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี ยังเติบโตได้ดี ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสที่แล้ว

ในไตรมาส 3 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งมาจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ที่ดีขึ้นเป็น 3.24% และสำหรับงวด 9 เดือน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 7% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการขายกองทุนรวมเป็นหลัก รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของรายได้จากตลาดทุนและธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนในงวด 9 เดือนนั้น รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถึงแม้ว่าค่าธรรมเนียมจากลูกค้าบุคคลยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ แต่ธนาคารมีค่าธรรมเนียมสินเชื่อลดลง

ทั้งนี้ รายได้รวมของธนาคารมีจำนวน 8,965 ล้านบาทในไตรมาส 3 ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสที่แล้ว และจำนวน 25,888 ล้านบาทในงวด 9 เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันปีที่แล้วเช่นกัน

ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานทั้งหมดมีจำนวน 4,124 ล้านบาทในไตรมาส 3 ซึ่งเพิ่มเพียง 2% จากไตรมาสที่แล้วและจำนวน 12,074 ล้านบาทในงวด 9 เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว เมื่อรวมกับการขยายตัวของรายได้ ทำให้ธนาคารยังสามารถขยายกำไรจากการดำเนินงานหลักได้

นอกจากนี้ธนาคารยังคงดำรงสถานะเงินกองทุนในระดับแข็งแกร่งภายใต้เกณฑ์ Basel III โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) เพิ่มขึ้นเป็น 18.38% และกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) เพิ่มขึ้นเป็น 12.92% ณ เดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 9.125% และ 6.625% ตามลำดับ


แท็ก (TMB)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ