KTBST คาด SET ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป แต่ยังวิตกแรงขายต่างชาติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 19, 2016 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,469-1,490 จุด จากปัจจัยบวกในเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯที่กดดันตลาดน้อยลง และปัจจัยในประเทศที่เริ่มดูดีขึ้น คาดจะทำให้ดัชนีฯวันนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน แต่กรอบการเคลื่อนไหวยังอาจเป็น sideway โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อทิศทางตลาดในระหว่างวัน จะเป็นค่าเงินบาท (เทียบกับเงินเอเซียสกุลอื่น) และตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของจีนที่คาด 6.7% เท่ากับไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป ต่างเดินหน้าบวกด้วยปัจจัยของตัวเองและมาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากเป็นช่วงของการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 คืนที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น เรามองเป็นบวก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาภาวะดอกเบี้ยที่ต่ำนั้นเป็นลบต่อผลประกอบการหุ้นกลุ่มนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว

ขณะที่ปัจจัยที่มีผลมาถึงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ คงเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน ส่งผลให้เงินดอลล่าร์อ่อนค่าเพราะเงินเฟ้อไม่ได้สูงกว่าคาด และ Fed ไม่ได้มีท่าทีที่อยากขึ้นดอกเบี้ยมากนัก ค่า Fed fund futures probability เดือน ธ.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 62.6% จาก 65.9% นั่นคือ โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. ลดลง เป็นบวกสั้นๆต่อตลาดหุ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหลายๆประเทศปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นในตลาดเอเชียยลดลง เป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ มีน้ำหนักในทางบวกมากขึ้นหลัง เนื่องจากเชื่อกันว่าการประชุม OPEC และผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะตกลงในโควต้าผลิตกันได้

ส่วนปัจจัยในประเทศ การรายงานกำไรของกลุ่มธนาคารใกล้จบแล้ว กำไรสุทธิโดยรวมดีกว่าคาดข้อมูลเบื้องต้นของเรา พบว่าธนาคาร 8 แห่งที่รายงานกำไรสุทธิมาแล้วมีกำไรโตขึ้น 14% YoY และ 2% QoQ แต่แนวโน้มกำไรของธนาคารบางแห่งที่ไปในทางลบ ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มนี้เข้ามา ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ บ่งชี้ว่ารัฐบาลยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประเด็นที่ว่าการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจะชะงักจึงถูกตีตกไป

สำหรับประเด็นที่สำคัญของวันนี้ น่าจะเป็นการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ 6 วัน เกือบ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ 9% ของปริมาณซื้อสุทธิสะสมของปีนี้ที่ 1.33 แสนล้านล้านบาท ซึ่งถือว่ามีนัยยะ แต่ตัวแปรที่ดูจะเป็นบวกในวันนี้ จะเป็น ราคา ETF ที่ชื่อ MSCI Thailand Capped ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันสองวัน ค่า Credit Default Swap ของไทยปรับตัวลดลง 2 วันติดต่อกัน ขณะที่ค่าเงินบาทนั้น ก็ไม่ได้อ่อนกว่าเงินสกุลเอเชียสกุลอื่นๆ ทั้งหมดนี้ บ่งชี้ว่าความกังวลที่มีต่อตลาดไทยนั้นลดลง แต่ถึงกระนั้น หากวันนี้ตัวแปรที่กล่าวไปทั้งหมด ยังคงส่งสัญญาณบวกต่อเนื่องจะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น

นายมงคล กล่าวว่า เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่กังวลต่อการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ แต่จากที่เรากล่าวไปข้างต้นว่ามีสัญญาณว่าจะนักลงทุนกลุ่มนี้จะชะลอการขายหุ้น น่าจะลดความกังวลในเรื่องนี้ลงไปได้บ้าง ทำให้มองตลาดวันนี้ว่ามีโอกาสที่จะบวกได้ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังแนะนำเป็นชะลอการลงทุนหรือเข้าเก็งกำไรเพียงช่วงสั้นๆ ในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่นั้น คงต้องเลือกเป็นตัวๆไป หุ้นที่เราแนะนำในวันนี้ได้แก่ PTT,BANPU,KCE,ITD,TMT


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ