บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ผู้บริหาร ช่อง MONO29 ในเครือ บมจ.โมโนกรุ๊ป (MONO) เชื่อว่าผลประกอบการปีนี้จะพลิกกลับมีกำไรจากปีก่อนขาดทุนกว่า 400 ล้านบาท แม้ปรับเป้าหมายรายได้ปี 59 มาที่ 1,200 ล้านบาทรับผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว จากเดิมตั้งไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เพราะช่วงไตรมาสแรกยังขาดทุน แต่ผลประกอบการเริ่มฟื้นในไตรมาส 2/59 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายและคาดว่าในไตรมาส 3/59 จะมีกำไรต่อเนื่อง เนื่องจากเรทติ้งเพิ่มขึ้นมาชัดเจนในเดือน ส.ค.-ก.ย.59 และมั่นใจว่าในปีนี้จะรักษาอันดับที่ 4 ไว้ได้
ส่วนปี 60 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาจากที่เรทติ้งปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งคอนเท้นท์ของช่องที่ใช้คอนเซ็ปของช่องหนังดีซีรี่ส์ดังยังได้รับความนิยม ซึ่งนายพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ MONO วางคอนเซ็ปต์ช่องไว้แต่แรก โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนด้านคอนเท้นท์อีก 800-900 ล้านบาทเน้นรายการและหนังจากต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายฐานผู้ชมในต่างจังหวัด จากช่วงแรกเน้นสร้างฐานในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่
นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ลงเหลือ 1,200 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท เที่ยบกับปีก่อนที่มีรายได้ราว 750 ล้านบาท จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/59 มีผลขาดทุน 80 ล้านบาท แต่จากการที่บริษัทได้ควบคุมค่าใช้จ่าย ทำให้ในไตรมาส 2/59 กลับมามีกำไร 13 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าเทิร์นอะราวด์แล้ว และคาดว่าในไตรมาส 3/59 จะมีกำไรต่อเนื่องหลังจากเรทติ้งช่อง MONO29 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยดีดตัวขึ้นจาก 0.5% มาที่ 0.7% ในเดือน ก.ย.59 หรือเพิ่มขึ้น 25% และสามารถปรับขึ้นค่าโฆษณาราว 20-30% ในเดือน ต.ค.
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วง 30 วันนี้ ช่อง MONO29 ปรับผังรายการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอาจมีผลกระทบกับรายได้บ้าง และเชื่อว่าทั้งปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนขาดทุนกว่า 400 ล้านบาท โดยอัตราค่าโฆษณาของช่องปรับขึ้นจาก 20,000 บาท/นาทีเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ขึ้นมาเป็น 25,000 บาท/นาทีในขณะนี้ และเมื่อเรทติ้งขึ้นมาเป็น 0.7% ก็ปรับค่าโฆษณามาเป็น 30,000 บาท/นาที
"สิ้นปี 59 คาดว่าจะมีกำไรแน่นอน และคาดว่าเรายังรักษาอันดับที่ 4...ได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ จากสภาพเศรษฐกิจ โดยภาพรวม และยังยืน 1,200 ล้านบาท ไตรมาสแรกติดลบ รายได้ตกเดือนละ 100 กว่าล้านบาท แต่หากปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาได้ในเดือน ต.ค.ก็จะมีรายได้ในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ถ้าปรับขึ้นราคาโฆษณาไม่ได้ ก็ยังมั่นใจว่ารายได้ได้ตามเป้าหมายที่ 1,200 ล้านบาท"นายนวมินทร์ ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ นายนวมินทร์ คาดว่า ช่อง MONO29 ยังรักษาอันดับที่ 4 ไว้ได้ เพราะมีจุดเด่นของเสน่ห์ซีรี่ยส์ดังที่กำหนดเป็นคอนเซ็ปต์ของช่องทีวีโมโน 29 มาตั้งแต่ต้น สามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ดี และยังมีรายการกีฬาเข้ามาเสริม เช่น บาสเก็ตบอลของไทยแลนด์ลีก การชกมวยระดับชาติ แม้ว่าจะไม่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอล เพราะมีหลายข่องก็ถ่ายทอดอยู่แล้วและเป็นคอนเท้นท์ที่ราคาสูง
บริษัทยังมีรายการซีรี่ยส์ของไทยออกอากาศหลังข่าวจันทร์-อังคาร โดยจะผลิตรายการเอง 8-9 เรื่องต่อปี ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายคอนเท้นท์ได้ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พยายามลดและใช้การบริหารจัดการ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ downside องค์กรลงเมื่อปีที่แล้วด้วยการปรับลดธุรกิจที่ไม่ทำกำไร
รวมทั้งในปี 59 ช่อง MONO29 เริ่มขยายฐานผู้ชมไปตามต่างจังหวัดมากขึ้น จากช่วงเริ่มต้นเน้นฐานผู้ชมในกรุงเทพ และหัวเมือง จึงเชื่อว่าเรทติ้งของช่อง MONO29 จะปรับตัวดีขึ้น
นายนวมินทร์ กล่าวว่า กลยุทธ์ในปี 60 ช่อง MONO29 ก็ยังเน้นคอนเท้นท์หนังดีซีรี่ยส์ดัง ซึ่งเป็นจุดเด่นของช่องโมโน 29 โดยมีสัดส่วน 65% และยังมีละครไทย รายการกีฬา รายการวาไรตี้
"ยิ่งนับวัน หนังกับซีรี่ยส์ก็ยิ่งมีมากขึ้น ของใหม่ ๆ มากขึ้น ที่ผ่านมาไม่แปลกใจที่เรทติ้งขึ้นมาจาก 0.5% มา 0.7% เพราะว่าช่วงกลางปีก็มีหนังใหม่ ๆ เข้ามา ครึ่งปีหลัง 6 เดือนนี้ก็จะมีหนังใหม่ๆเข้ามาอีก และปีต่อไปก็มีหนังออกจากโรงเข้ามาฉายที่ช่อง MONO29 ฉะนั้น เรามั่นใจว่าเรทติ้งเราไม่ตกแน่ ๆ มีแต่เพิ่มขึ้น เพราะของใหม่ก็เข้ามาเรื่อย ๆ ดูจากเทรนด์ ผมหวังเรทติ้งขึ้นมาที่ 1.0% จากตอนนี้เรามี market share 4-5% อยู่แล้ว อันดับก็ยังอยู่ที่ 4 หรืออาจจะขึ้นอันดับ 3 ถ้า workpoint อ่อนลง ก็อยากเป็น TOP3 ตอนนี้เป็น TOP4 เรามองเป็นเป้าหมาย"นายนวมินทร์ กล่ว
ดังนั้น จึงคาดว่ารายได้ในปี 60 จะดีกว่าปี 59 เพราะจากเรทติ้งที่สูงขึ้นมาที่ 0.7% สามารถปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณา 35,000 บาท/นาที
"ถ้าเรทติ้งโต รายได้ก็โตอยู่แล้วตอนนี้ bottom out มาแล้ว จาก turnaround เป็น Growth Company เพราะต่อจากนี้เงินที่ได้เข้ามาจะไปสู่ที่ Bottom line เป็นกำไรหมดแล้ว" นายนวมินทร์ กล่าว
นายนวมินทร์ กล่าวว่า เงินลงทุนคอนเท้นท์ในปีหน้าก้ใช้งบลงทุนเหมือนปีนี้ จำนวน 800 -900 ล้านบาท เป็นการซื้อหนังใหม่ คงไม่ได้เพิ่มมากกว่านี้ เพราะสล็อตเวลาฉายออกอากาศเท่าเดิม
ส่วนการจ่ายค่าใบอนุญาต นายนวมินทร์ กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมเงินไว้แล้ว แต่หากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะอนุญาตผ่อนผันจ่ายเงินค่าใบอนุญาต ก็จะส่งผลดีต่อทุกช่อง บริษัทเองก็จะได้อานิสงส์ไปด้วย และจะมีส่วนช่วยให้ผลประกอบการปี 60 ได้ดีขึ้น
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ กสทช.มีมติเห็นชอบการปรับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ ตามร่างประกาศได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นอัตราขั้นบันได
"ปีนี้ภาพรวมตลาดทรงตัว เราค่อนข้างเริ่มจากศูนย์ จึงรับผลกระทบน้อย แต่การเติบโตไม่ได้มาก แต่ก็โตเพราะมาจากจุดต่ำสุด ตัวเลขเม็ดโฆษณาขณะนี้ฝืด แต่ไม่รู้อนาคต ที่เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก็กังวล ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่โฆษณาก็ต้องลง เขาก็ต้องลง TOP Rank เพราะเราอยู่ใน TOP Rank ซึ่งผู้ใช้ก็คงไม่ได้โปรยโฆษณากระจาย"นายนวมินทร์ กล่าว
นายนวมินทร์ ยังกล่าวถึงทิศทางของผลประกอบการกลุ่ม MONO ในปีนี้ว่า ไม่แน่ใจว่าจะทำรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 พันล้านบาทหรือไม่ เมื่อธุรกิจทีวีซึ่งมีสัดส่วน 50% ของรายได้กลุ่ม MONO ปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ลง เนื่องจากธุรกิจวิทยุก็ยีงทรงตัว
อย่างไรก็ดี ยังหวังว่าภาพยนต์ที่คาดว่าจะออกฉายในไตรมาส 4/59 หรือ ไตรมาส 1/60 จะทำรายได้ได้ดี โดยจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ MONO ผลิตภายใต้บริษัท ทีโมเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่มีนายวิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่แยกตัวออกมาจากจีทีเอช เป็นผู้บริหาร
"คิดว่าเรื่องแรกคงมีคนรอติดตามดู เพราะมั่นใจตัวนายวิสูตรมาก ถ้าหนังทำรายได้ 100 ล้านบาท เหลือกำไร 20-30 ล้านบาทก็อยู่ได้ และยังมีช่องทางอื่นฉายในช่องทางอื่นด้วย โดยเงินลงทุน 20 กว่าล้านบาทต่อเรื่อง ทั้งนี้ ไม่ได้วางเป้าหมายต้องทำหนังไทยกี่เรื่อง เพราะทำหนังเยอะอาจขาดทุน เราเน้นเรื่องคุณภาพหนังดีกว่า"นายนวมินทร์ กล่าว