นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ยังคงมีปัจจัยให้ต้องติดตามไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในประเทศ ด้านการเมือง อาทิเช่น การเลือกตั้งหลังจากรับร่างธรรมนูญแล้ว ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการประกาศการไว้อาลัย ทำให้การลงทุน การบริโภค อาจชะลอตัวลงไปบ้าง รวมถึงเรื่องการลงทุนจากภาครัฐที่จะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปกับญี่ปุ่น ราคาน้ำมัน รวมไปถึงเรื่อง BRExit ที่เริ่มกลับมาพูดถึงอีกซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อกระแสเงินลงทุนในเอเชียรวมทั้งไทย ส่งผลให้การลงทุนในช่วงไตรมาส 4 มีความผันผวนต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนให้มาก
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจาณาด้านปัจจัยพื้นฐานแล้วบริษัทจดทะเบียนของไทยยังมีความแข็งแกร่งซึ่งจะเห็นได้ว่าผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 2 เติบโตเพิ่มขึ้น 5.7% ส่วนไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะมีการเติบโตลดลงตากไตรมาสที่ 2 ประมาณ 4% อันเป็นผลมาจากกำไรของบริษัทในกลุ่มน้ำมันที่ลดลง
แต่ยังมองว่าดัชนีสิ้นปีนี้จะปิดที่ระดับ 1,580 จุด และในปี 2560 คาดว่ากรอบดัชนีจะอยู่ที่ 1,392 -1,650 จุด โดยหุ้นที่ยังน่าลงทุน ได้แก่ กลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น CPALL , BJC และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตจากการลงทุนของรัฐบาล เช่น STEC ตลาดหุ้นไทยจึงยังน่าลงทุนและยังมีจังหวะให้เข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อวางแผนภาษี
ดังนั้น บล.KTBST จึงร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด ออก “กองทุนเปิด วรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) หุ้นระยะยาว (ONE-SHARIAHLTF)" สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ระยะยาวและต้องการวางแผนภาษีในช่วงปลายปีโดยเฉพาะนักลงทุนชาวไทยมุสลิม
นายอิสเรศ มะหะหมัด ผู้อำนวยการฝ่าย Islamic Wealth Management KTBST เปิดเผยว่า “กองทุนเปิด วรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) หุ้นระยะยาว" เป็นช่องทางการลงทุนหนึ่งที่สำคัญของชาวมุสลิมที่ต้องการวางแผนภาษีในช่วงปลายปี ปัจจุบันมีนักลงทุนที่เป็นชาวไทยมุสลิมมาลงทุนกับ KTBST Islamic Wealth Management เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องการบริหารจัดการเงินลงทุนรวมถึงการวางแผนภาษี
โดยกองทุนจะลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามโดยมี “คณะกรรมการชะรีอะฮ์" คอยกำกับดูแลในการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน ให้ได้ตามหลักชะรีอะห์ หรือหลักทรัพย์อื่นที่ไม่ขัดกับหลักศาสนาอิสลาม อาทิเช่น ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับ สุรา สิ่งมึนเมา คาสิโน การพนัน ดอกเบี้ย ซึ่งเหมาะสำหรับ 1.) ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่ผ่านการคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม 2.) นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโต โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Real Sector และไม่ลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และธุรกิจบันเทิงต่างๆ ตัวอย่างหุ้นที่คาดว่า จะลงทุน เช่น SCC, Robins, BJC, PTT, TU, BDMS, RJH, CPN, AOT, BTS ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่อยู่ใน SET50 Index เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดในภาวะตลาดขาขึ้น และ 3) เหมาะกับนักลงทุนชาวมุสลิมที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดา
"ในช่วงเทศกาลวางแผนภาษีปลายปีนี้ ผมขอแนะนำ “กองทุนเปิด วรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) หุ้นระยะยาว" สำหรับการลงทุนเพื่อวางแผนภาษีและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวครับ คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจอย่างดีจากพี่น้องนักลงทุนชาวไทยมุสลิม กองทุนจะเปิดขาย IPO ในวันที่ 26 ต.ค. - 18 พ.ย. 2559 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี ประเทศไทย 02-648 1708 และ 02-648-1713 " นายวินกล่าว