นายกุศล สังขนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) กล่าวว่า บริษัทเข้าซื้อบริษัท Thai Lotus ซึ่งเป็นธุรกิจให้เช่าป้ายโฆษณา จะช่วยต่อยอดธุรกิจของ EIC ในด้านการขยายไลน์ธุรกิจเพิ่ม และบริษัทมีนโยบายจะขยายไปทางด้านป้าย Digital ซึ่งต้องใช้ระบบ Electronic และ LED ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจปัจจุบันไปอีกทางหนึ่ง ส่วนปัญหาเรื่องงบการเงินนั้น ทางคณะกรรมการและผู้บริหารชุดใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างเต็มที่ และให้ความมั่นใจว่าจะสามารถปลดเครื่องหมาย NP ได้ภายในปีนี้
อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการ EIC เมื่อวันที่17 ต.ค.59 มีมติให้บริษัทเข้าลงทุนใน Thailotus เป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 100% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ Thailotus เป็นจำนวนเงินลงทุนไม่เกิน 85,000,000 บาท จากผูถือหุ้นอื่น 3 ราย
ปัจจุบัน ธุรกิจของบริษัทย่อยและบริษัทในเครือมีสัดส่วน ดังนี้ บริษัท อีไอซี เซมิคอนดักเตอร์ จำกัด (EIC Semi) ผลิต-จำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ (Discrete Semiconductor) อย่างครบวงจร (Manufacturer with Wafer Fabrication) โดยเป็นทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบต้นน้ำคือ แผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (Silicon Wafer) เพื่อนำมาใช้ในการประกอบเป็น Diodes สัดส่วนการถือหุ้น 99.99%
สำหรับบริษัท สมาร์ท แทรฟิค จำกัด (Smart Traffic) ประกอบธุรกิจ ติดตั้งระบบเก็บเงินค่าทางด่วนแบบเงินสดและแบบอัตโนมัติ (Easy Pass), ระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยโทรศัพท์มือถือ (NFC) และระบบชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต VISA Paywave ทั้งด้านคมนาคมและขนส่ง ระบบบริหารและแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าปลีกธุรกิจและคมนาคม (Loyalty Program) โครงการจัดทำระบบตั๋วร่วมและเคลียริ่งเฮาส์ (Clearing House) สัดส่วนการถือหุ้น 26.94%
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการรอรับชำระเงินค่าขายหุ้น Smart Traffic ส่วนที่เหลือ จำนวน 165 ล้านบาท ตามสัญญาซื้อขายหุ้น โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นบางส่วนมาแล้ว จำนวน 15 ล้านบาท คงเหลือค้างจ่ายอีก 150 ล้านบาท ในส่วนเงินมัดจำค่าหุ้น จำนวน 70 ล้านบาท ของนางสาวพรพันธ์ ศิริวงศ์ ณ อยุธยานั้น ได้มีการขยายระยะเวลาการชำระคืนให้แก่บริษัท โดยจะสิ้นสุดภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ทั้ง 2 รายการ หากมีการผิดนัดชำระหนี้ไม่ว่างวดใด บริษัทจะดำเนินการให้มีการเรียกรับชำระหนี้ที่เหลือทั้งหมดทันที โดยไม่พิจารณาเลื่อนการชำระเงินให้อีก พร้อมดำเนินตามกฏหมายเพื่อปกป้องประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวม
ส่วนบริษัท ไทย ไพร์ม อินเวสท์เมน์ จำกัด (TPIL) ธุรกิจด้านกีฬาซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ EIC ถือหุ้นในสัดส่วนการถือหุ้น 100% บริษัทฯ ได้อนุมัติตั้งด้อยค่าไปแล้ว และจะไม่ดำเนินการต่อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้นส่วนนี้ออกไปโดยเร็ว