หุ้น SYNEX ราคาวิ่งขึ้น 3.85% มาอยู่ที่ 5.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.35 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.40 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.35 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับคำแนะนำหุ้น บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX)เป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 จะกลับมาเด่น และดีสุดในรอบ 14 ไตรมาส จากรายได้ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ และแนวโน้มรายได้งวดไตรมาส 4/59 มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อ
จึงมองอนาคตสดใส ทั้งกำไรที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงแผนธุรกิจใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุป 1 ดีล ภายในปีนี้ พร้อมปรับราคาเป้าหมายปี 2560 เป็น 6.80 บาท
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/59 กลับมาโดดเด่นที่ 102 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสก่อน และ 9% จากงวดปีก่อน จากรายได้ในงวดไตรมาส 3/59 ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 6,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อน และ 3% งวดปีก่อน ทั้งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลที่ภาครัฐมีการเร่งใช้จ่ายก่อนปิดปีงบประมาณ และคาดว่างาน Project จากลูกค้ากลุ่ม Commercial จะมีการรับรู้รายได้มากขึ้น นอกจากนั้น คาดว่าจะเป็นผลจากยอดขายในกลุ่ม Smart Phone ที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Smart Phone รุ่นใหม่ของ Huawei ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าค่อนข้างมาก
ในด้านของอัตรากำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 3/59 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4.8% ทรงตัวไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากงวดปีก่อน ขณะที่คาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน ตามทิศทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะลดลงถึง 8% จากงวดปีก่อน เนื่องจากคาดว่าค่าใช้จ่ายด้านการตลาดจะลดลงจากไตรมาส 3/58 ค่อนข้างมาก สำหรับในงวดไตรมาส 3/59 โดยคาดว่า SYNEX จะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 24 ล้านบาท ดังนั้น หากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 เป็นไปตามที่คาด จะทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานรวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% จากงวดปีก่อน และคาดกำไรสุทธิ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดปีก่อน
นอกจากนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/59 จะยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง จากรายได้ที่มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อ ซึ่งแตกต่างจากทุกปีที่รายได้งวดไตรมาส 3 ของทุกปีจะดีที่สุด เนื่องจากคาดว่ายอด Backlog ที่จะรับรู้ในงวดไตรมาส 4/59 ที่ค่อนข้างสูง ทั้งงาน Project ของทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้คาดว่าสัดส่วนลูกค้าในกลุ่ม Commercial จะสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่ม Networking นอกจากนั้น คาดว่า SYNEX จะได้ผลบวกจากมาตรการเร่งการลงทุนของภาครัฐในการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในปลายปีนี้ ดังนั้น ยังคาดว่ารายได้งวดปี 2559 จะเติบโต 6.5% จากปีก่อน เกือบใกล้เคียงกับที่ SYNEX คาดรายได้ปีนี้ที่ 23,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปี 2559 คาดว่าจะอยู่ที่ 365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน