นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/59 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาก และยังเป็นการรับรู้โรงไฟฟ้าเต็มไตรมาสครั้งแรกในไตรมาสดังกล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทฯมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วเสร็จ และ COD เร็วๆ นี้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.59 ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายจอมทรัพย์ กล่าวว่าบริษัทฯได้เข้าร่วมประมูลขอขายไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่เปิดให้ยื่นรับซื้อไม่เกิน 50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะรู้ผลประมาณปลายเดือน ต.ค.นี้ โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะได้รับงาน
“เราเข้าไปประมูลงานของกกพ. ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ซึ่งในช่วงปลายเดือนนี้ตุลาคมนี้ ก็น่าจะรู้ผลซึ่งเป็นไปตามกำหนดการประกาศรายชื่อของ กกพ.ซึ่งเราได้วางงบลงทุนในโครงการโรงไฟฟาขยะอยู่ที่ประมาณ 120-130 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ ที่ผ่านมาเรามีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม บนพื้นที่จังหวัดสระแก้ว-ปราจีนบุรีแล้ว กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ตุนไว้ ซึ่งจะสนับสนุนเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะประมาณ 200 เมกะวัตต์ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า"นายจอมทรัพย์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันความต้องการในด้านโรงไฟฟ้ายังมีสูง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้ง ยังสนใจศึกษาการลงทุนในโซลาร์ฟาร์มและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV อย่างต่อต่อเนื่อง ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม ฯลฯ ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคตแน่นอน
อนึ่ง ปัจจุบันบริษัทมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วรวมประมาณ 675 MW จากที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อยู่ประมาณ 770 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าหมาย COD ไว้ 1,000 เมกะวัตต์ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ในปี 60