ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,494.44 จุด ลดลง 3.92 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 54,926.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,501.36 จุด ส่วนดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,491.32 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 508 หลักทรัพย์ ลดลง 721 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 436 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ เช่นเดียวกันตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ จากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยเป็นการซื้อขายทำกำไรในหุ้นรายตัว
ขณะที่นักลงทุนก็ยังคงรอดูการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปคและประเทศนอกกลุ่มโอเปค ในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ว่าจะมีการลดกำลังการผลิตหรือไม่, การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 8 พ.ย.นี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 1-2 พ.ย.59 ว่าจะมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอย่างไร รวมถึงอาจจะมีการประชุม ECB ถึงการกำหนดนโยบายทางการเงิน
"ดูจากตลาดนอกประเทศก็ยังไม่ดีนะ เข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงของ Earning season ของไตรมาส 3/59 ซึ่งทั่วโลกก็จะเป็นลักษณะนี้หมด โดยรวมตลาดก็ยังไม่ได้มีอะไรที่ใหม่ ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นของตลาดตอนนี้ก็จะเป็นการซื้อขายหุ้นเป็นรายตัว จากน้ำมันปรับตัวลง และผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่ออกมา outlook ก็ยังไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้เป็นภาพของการซื้อขายทำกำไร ฉะนั้นดัชนีฯก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในกรอบแคบ ๆ รอดูปัจจัยใหม่เข้ามา"นายธนเดช กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ โดยยังคงรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,470-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510-1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BPP มูลค่าการซื้อขาย 10,028.41 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 6.25 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,138.44 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,174.24 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
SQ มูลค่าการซื้อขาย 1,822.22 ล้านบาท ปิดที่ 4.14 บาท ลดลง 0.14 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,392.33 ล้านบาท ปิดที่ 349.00 บาท ลดลง 2.00 บาท