TPRIME REIT เจรจาซื้อสินทรัพย์ 2 แห่งเข้ากองทุนเพิ่ม คาดชัดเจนปี 60 เน้นย่าน CBD

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 31, 2016 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุชาติ เจียรานุสสติ กรรมการบริหาร บริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME REIT) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง จำนวน 2 แห่ง ซึ่งไม่ได้จำกัดมูลค่าของสินทรัพย์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีหน้าเป็นต้นไป โดยมองสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องตั้งอยู่ในศูนย์กลางย่านธุรกิจ (CBD) เท่านั้น หรือเรียกได้ว่าจะต้องเป็นอาคารที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี และมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90% ขึ้นไป เพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุน ประกอบกับในอนาคต ยังมองโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศที่มีการเติบโตสูง เพื่อขยายการเติบโตให้แก่กองทุน อย่างไรก็ตามคาดหวังมูลค่ากองทุนจะมากกว่า 10,000 ล้านบาท สอดคล้องกับมูลค่ากองอื่นที่ทำการซื้อขายในตลาดหุ้น

ทั้งนี้ หลังจาก TPRIME REIT เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้เป็นวันแรกบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) โครงการเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ และกรรมสิทธิ์สมบูรณ์(Freehold) โครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ มูลค่าค่ากองทุนรวม 7,200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยได้เป็นอย่างดี และยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง จำนวน 2 แห่ง เน้นย่านศูนย์กลางธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีหน้า

สำหรับสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุนในโครงการเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ และโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ นั้นนับว่ามีศักยภาพและความแข็งแกร่ง โดยโครงการตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางคมนาคมหลักในเขตศูนย์กลางย่านธุรกิจ (Central Business District :CBD) เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้าบีทีเอส มีอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อหน่วยของ TPRIME REIT ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ อย่าง Freehold ผลตอนแทนจะอยู่ที่ 6-8%

นายสุชาติ กล่าวว่า TPRIME REIT มีจุดแข็งที่สำคัญ คือ ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางคมนาคมหลักในเขตศูนย์กลางย่านธุรกิจ โดยโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท ส่วนโครงการเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลม ส่งผลให้ที่ผ่านมามีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 95-98% และสามารถสร้างรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอทั้งจากค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ร้านค้า โดยผู้เช่าอาคารทั้ง 2 โครงการประกอบธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีความแข็งแกร่งทางการเงิน ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาแม้ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังมีการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าพื้นที่ทุก ๆ ปี โดยเฉลี่ยต่อปี 5% ต่อตารางเมตร เป็นไปตามอายุสัญญาเช่า 3 ปี จากปัจจุบันมีอัตราค่าเช่าพื้นที่อยู่ที่ 800-900 บาท/ตารางเมตร ขณะที่มองแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในบริเวณศูนย์กลางธุรกิจในกรุงเทพฯในอนาคต ยังคงมีความต้องการเติบโต ขณะที่ซัพพลายมีค่อนข้างจำกัด ทำให้ส่งผลดีต่ออัตราการปรับราคาค่าเช่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ