TPRIME ปิดเทรดวันแรกที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท (+27.00%) จากราคา IPO หน่วยละ 10.00 บาท โดยเปิดตลาดที่ 14.00 บาท สูงสุด 14.00 บาท ต่ำสุด 12.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,050.29 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่าแม้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) จะไม่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากเท่าทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ซึ่งราคาขณะนี้สูงเป็น 14.90 บาท เทียบกับราคาจองที่ 10.00 บาท แต่หากพิจารณาสินทรัพย์ภายใต้การบริหารอาคารสำนักงานคือ เอ็กเชน ทาวเวอร์(ลงทุนทางอ้อมผ่านการถือหุ้น) และเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ (สิทธิการเช่า) พบว่าดีใกล้เคียงกัน คือ แม้ว่าทั้งมูลค่ากองทรัสต์ฯและพื้นที่เช่าน้อยกว่าเป็น 7.2 พันล้านบาท และ 67,653 ตารางเมตร ตามลำดับ
แต่หากพิจารณาในแง่ทำเลที่ตั้งของอาคารสำนักงานก็อยู่ในทำเลที่ดีมากคือ ใกล้รถไฟฟ้า BTS เหมือนกัน คือ เอ็กเชน อยู่สถานีอโศก และเมอร์คิวรี่ อยู่สถานีชิดลม อีกทั้งอัตราการเข้าเช่าสูงเป็น 98% และ 96% ตามลำดับ ส่วนอายุสัญญาเช่านั้น เอ็กเชน ไม่มีวันหมดอายุ (Free Hold) และเมอร์คิวรี่เหลืออีก 19 ปี ข้อดีคือ เป็นกองทุนผสมคือ มีสินทรัพย์ทั้ง Free Hold จะทำให้มูลค่าเพิ่มตามราคาที่ดิน และสินทรัพย์ส่วนที่เป็นเช่าระยะยาว ก็จะช่วยให้มีกำไรเพิ่ม แม้ในอนาคตอายุน้อยลง จะทำให้มูลค่าลดลง แต่สัดส่วน Free Hold มากกว่าเป็น 66-67% ลูกค้าที่เช่าอาคารมีหลากหลายธุรกิจช่วยกระจายความเสี่ยง ภาวะอุตสาหกรรมเกื้อหนุนคือ อุปสงค์พื้นที่สำนักงานมีมากกว่าอุปทานและคาดว่าปันผลสูง
เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเปิดเผยข้อมูล จึงยังไม่สามารถใช้วิธีส่วนคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ได้ แต่ในเบื้องต้น หากใช้ GVRIET เป็นตัวอ้างอิง ซึ่งปัจจุบันซื้อขายด้วย P/NAV ที่ 1.46 เท่า หากใช้ส่วนลดเพื่อสะท้อนขนาดเงินลงทุนและพื้นที่เช่าที่น้อยกว่าในอัตรา 10-15% จะได้ P/NAV ที่ 1.31-1.24 เท่า ขณะที่ NAV ล่าสุดที่ประเมินเป็น 9.99 บาท จะได้ราคาพื้นฐานในเบื้องต้นที่ 12.40-13.13 บาท คิดเป็นส่วนเพิ่มจากราคาที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 24%-31% ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ