KTBST คาด SET เป็นลบจากปัจจัยภายนอก รอผลประชุม BOJ-FOMC มองกรอบ 1,488-1,498 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 1, 2016 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า ยังมีแนวโน้มเป็นลบจากปัจจัยภายนอก โดยตลาดจะต้องรอดูทั้งผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะรู้ผลระหว่างการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ และการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะเริ่มประชุมวันนี้และจะรู้ผลในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากปัจจัยภายในอาจทำให้ดัชนีฯ เหมือนเมื่อวานนี้ คือบวกได้อ่อน ๆ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,488-1,498 จุด

สำหรับตลาดต่างประเทศในคืนที่ผ่านมา ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปในทางใดตลาดหุ้นบวกลบกันเล็กน้อย ดอลลาร์สูงขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลง รวมถึงยังมีเรื่อง FBI เข้าตรวจสอบ email ของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโรแครต ซึ่งเป็นลบต่อตลาดทั้งหมด เพราะอาจเปลี่ยนผลเลือกตั้งสหรัฐฯได้ ดังนั้น ตลาดหุ้นในวันนี้ น่าจะเป็นวันที่ตลาดจะต้องรอดูทั้งผลประชุม BOJ และ FOMC ก่อน

ตลาดสินทรัพย์ทางการเงินน่าจะซึม ๆ ยกเว้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีทั้งฝั่งบวก ได้แก่ สังกะสี-ทองแดง ที่เก็งความต้องการใช้ที่มาจากจีน และฝั่งลบ คือราคาน้ำมันที่ผู้ผลิตน้ำมันยังตกลงกันไม่ได้เรื่องปริมาณการผลิต และมีโอกาสที่ราคาน้ำมัน จะไหลลงไปหา 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือต่ำกว่า อีกครั้ง แม้ทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะระบุว่าผู้ผลิตหลายรายสามารถตกลงในหลักการได้แล้ว แต่นักลงทุนอยากเห็นตัวเลขการผลิตที่จะลดลงมากกว่า จึงยังเป็นลบต่อราคาน้ำมันอยู่

ดังนั้น ปัจจัยภายนอกจึงเป็นลบหรืออยู่ในสภาวะรอคอย มากกว่าที่จะบวก โดยผลลบที่มีมาถึงตลาดไทย คือ นักลงทุนต่างประเทศน่าจะยังขายหุ้นต่อ เพื่อปรับพอร์ตรับดอกเบี้ยสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่น ๆ ที่น่าจะเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ที่จะช่วยพยุงตลาดได้ คือตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังบอกว่าดี เพราะได้ส่งออกช่วย อีกทั้งยังคาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ อาจเห็นมาตรการเศรษฐกิจออกมาอีก หลังสัปดาห์ก่อน มีเงินกองทุนหมู่บ้าน 1.8 หมื่นล้านบาท และมีข่าวว่าจะเข็นมาตรการช่วยราคาข้าวเข้ามาในเร็ว ๆ นี้ และที่อาจจะเป็นแรงกระตุ้นของตลาดหุ้นจะเป็นเรื่องการ เก็งงบการเงินไตรมาส 3/59 ที่จะทำให้หุ้นกลาง-เล็ก คึกคักขึ้น ในตัวที่กำไรดี ซึ่งคงหนีไม่พ้นตัวที่กำไรดีในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังนั้น ทิศทางตลาดวันนี้ ยังมีแนวโน้มเป็นลบจากปัจจัยภายนอก แต่แรงหนุนจากปัจจัยภายในอาจทำให้ดัชนีฯ เหมือนเมื่อวานนี้ คือบวกได้อ่อนๆ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ด้วยปัจจัยภายนอก คือนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางใหญ่ถึง 3 แห่งในสัปดาห์นี้ และราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่รวมทั้งนักลงทุนต่างประเทศจะชะลอการลงทุน กลยุทธ์ ตอนนี้ คือ เลี่ยงหุ้นใหญ่ที่เสี่ยงต่อการขายของต่างชาติไว้ก่อน จับหุ้นที่เล่นเก็งงบ และหุ้นมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ และลงทุนในกรอบเวลาสั้น ๆ หุ้นที่แนะนำได้แก่ BA,BCH,STEC,GLOW,JWD


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ