นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอพเพิล เวลธ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ย.59 ภาพรวมตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/2559 และแรงซื้อสถาบันที่คาดจะยังมีต่อเนื่องในช่วง พ.ย.-ธ.ค.จากเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF ราว 2-3 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินดัชนีฯ ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,435-1,540 จุด หลังจากการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมา อยู่ในภาวะที่ผันผวนผิดปกติ เนื่องจากนักลงทุนยังรอผลการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) และธนาคารกลางยุโรป (BOE)
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้ง 3 ธนาคารกลางน่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมในเดือน พ.ย.นี้ แต่โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐน่าจะอยู่ในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.59 รวมถึงการรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.น่าจะส่งผลให้ทิศทาง Fund Flow ของต่างชาติในตลาดแถบภูมิภาคอาเซียน กลุ่ม TIP ซึ่งประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยังชะลอตัว
“ปัจจัยที่ต้องติดตามในเดือน พ.ย. นี้ ยังคงเป็นทิศทางการปรับขี้นดอกเบี้ยสหรัฐที่น่าจะขึ้น 1 ครั้งในการประชุม ธ.ค.นี้, ผลการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐ และการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ ประเมินดัชนี ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,435-1,540 จุด แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 3/59 เติบโตดี เช่น AAV –BCH – BDMS – CPF- GFPT- KAMART- MTLS – STEC – WORK" นายอภิชัย กล่าว