นายธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรอดดิจิ (PDG) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปี 60 น่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวมากกว่า 3% รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจาก 300 บาทต่อวัน เป็น 305-310 บาทต่อวันใน 69 จังหวัด ก็น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อภาคประชาชนปรับตัวดีขึ้น ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย
"เรามองว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะค่อยๆดีขึ้น อย่างไตรมาส 3 และไตรมาส 4/59 ก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเป็นไปตามการขยายตัวของ GDP ที่ปี 60 ก็น่าจะขยายตัวได้มากกว่า 3% และการขึ้นค่าแรง ก็น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อ รวมถึงการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายของเราน่าจะสูงกว่าปี 59 ได้"นายธงชัย กล่าว
บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการเตรียมแผนลงทุนในปี 60 จากเบื้องต้นที่มองว่าหากช่วงครึ่งแรกของปีหน้าตลาดบรรจุภัณฑ์มีความต้องการเพิ่มขึ้นมากตามการเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจ บริษัทก็อาจจะลงทุนซื้อเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิตขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตขวดพลาสติกอยู่ที่ 60-70% โดยจะใช้เงินลงทุนจากเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ
นายธงชัย กล่าวอีกว่า ขณะที่ในปี 59 บริษัทคาดว่ารายได้ก็น่าจะเติบโตกว่าปีก่อน จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 673.15 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนลดลงตามราคาวัตถุดิบ และยอดขายบรรจุภัณฑ์มีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยได้รับผลบวกจากความต้องการของตลาดน้ำมันพืชและน้ำดื่ม ซึ่งน่าจะมีปัจจัยมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาดื่มน้ำเปล่าบรรจุขวดมากขึ้น
สำหรับแผนการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม (CLMV) นั้น ขณะนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น 1 รายในพม่า แต่ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด จากก่อนหน้านี้คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงกลางปีนี้ก็๕งต้องเลื่อนออกไปก่อน