โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) มองรับผลกระทบจากการยกเลิกงานจัดเลี้ยง งานเคาน์ดาวน์ปีใหม่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/59 ไม่มากนัก เพราะคาดว่าจะมียอดรายได้จากงานดังกล่าวประมาณ 40-50 ล้านบาท หรือเพียง 2% ของรายได้ทั้งไตรมาส
สำหรับกำไรปกติทั้งปี 59 คาดว่าจะเติบโต 7.7% จากปีก่อน จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี และธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟกลับมาสดใส ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของรายได้รวม นอกจากนี้ แนวโน้มปี 60 ธุรกิจหลักทั้งโรงแรมและอาหารก็ยังเติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่ราคาหุ้น CENTEL อ่อนตัวลงมา เป็นจังหวะซื้อสะสม โดยเชื่อว่าครึ่งหลังเดือน พ.ย.ราคาหุ้นน่าจะฟื้นตัวเร็ว หลังจากผ่านพ้นช่วง 30 วันที่รัฐบาลขอให้งดจัดงานรื่นเริงไปแล้ว
ราคาหุ้น CENTEL พักเที่ยงอยู่ที่ 38 บาท ลดลง 0.75 บาท (-1.94%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.18%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บัวหลวง ซื้อ 48.00
เออีซี ซื้อ 47.00
ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 47.00
เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 46.00
ทิสโก้ ซื้อ 45.00
นางสาวณัฎฐ์วริน ไตรภพสกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CENTEL แม้แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/59 อาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกจัดงานเทศกาลและกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงและงานเคาน์ดาวน์ปีใหม่ แต่เชื่อว่าจะมีผลกระทบไม่มากนักจากการยกเลิกงานในช่วงเดือน ต.ค.ไปจนถึงต้นปีหน้า ประเมินมูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านบาท เทียบกับรายได้รวมปีนี้ที่คาดไว้ที่ราว 19,000 ล้านบาท ถือว่าเป็ฯสัดส่วนน้อยมาก
ขณะธุรกิจโรงแรมในมัลดีฟกลับมาสดใสอีกครั้ง ซึ่งรายได้จากโรงแรมในมัลดีฟคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของรายได้รวม และ CENTEL ยังมีแผนขยายสาขาร้านอาหารเพิ่มอีก จึงคาดว่ากำไรในไตรมาส 4/59 น่าจะดีกว่าไตรมาส 3/59
ทั้งนี้ คาดกำไรปกติในปีนี้อยู่ที่ 1,915 ล้านบาท เติบโต 7.7% จากปีก่อน และกำไรปกติในปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ล้านบาท หรือ เติบโต 10.9% จากปี 59 เป็นผลบวกจากการขยายธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร รวมทั้งเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ดีขึ้น โดยในไตรมาส 3/59 คาดว่าจะขยับขึ้นมาที่ 20.3% จาก 19.7% ในไตรมาส 3/58
ด้านนายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น CENTEL จากราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมา และมองว่าราคาได้รับข่าวลบจากผลกระทบธุรกิจโรงแรมและอาหารในช่วงไว้อาลัยไปบางส่วนแล้ว และเชื่อว่าหลังพ้น 30 วันที่รัฐบาลขอให้งดจัดงานรื่นเริงไปแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งหลังเดือน พ.ย.คาดว่าราคาหุ้นน่าจะกลับมาได้เร็ว
ทั้งนี้ ยอดที่ยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานตั้งแต่เดือน ต.ค.จนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 60 มีมูลค่ารวมประมาณ 40-50 ล้านบาท หรือเทียบแล้วเท่ากับ 2% ของรายได้ในไตรมาส 4/59 เท่านั้น
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้คาดว่า CENTEL จะมีกำไรสุทธิ 1,500 ล้านบาท เติบโต 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นสัดส่วน 75% ของเป้าหมายกำไรสุทธิทั้งปี 59 ที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 2,000 ล้านบาท และในปี 60 เชื่อว่าบริษัทจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว แต่ทั้งนี้ขึ้นกับนโยบายรัฐบายที่ให้การสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไป
"แนวโน้มคาดว่าครึ่งเดือนหลัง พ.ย.จะมี positive ที่จะให้เอกชนกลับมาจัดกงานได้ คาดว่าหุ้น CENTEL จะกลับมาเร็ว ราคาหุ้นสมเหตุสมผลกับความเสี่ยง"นายสิทธิชัย กล่าว
ขณะที่ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น CENTEL ที่ปรับตัวลดลงในช่วงระยะสั้นนั้น เป็นโอกาสที่ดีในการซื้อสะสม เนื่องจากตลาดมีความกังวลมากเกินไปต่อการยกเลิกกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงแรม ซึ่งมองว่าทำให้ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ระดับมูลค่าหุ้นน่าลงทุน เพราะ CENTEL ซื้อขายที่ PER ปี 59 ที่ 27.5 เท่า ใกล้เคียงกับช่วงหลังเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3/58 และค่า PER ปี 60 ที่เพียง 24.0 เท่า (เท่าค่าเฉลี่ยปี 49-58)
ด้าน บล.ทิสโก้ คาดว่ากำไรปกติของ CENTEL ในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยธุรกิจอาหารและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมที่มัลดีฟส์ รายได้จากธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ แม้มีความเสี่ยงจากการยกเลิก หรือเลื่อนการจัดงานรื่นเริงต่างๆ แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบจำกัดน้อยกว่า 1% โดย CENTEL ยังคงเป้ารายได้จากสาขาเดิม (SSSG) ในปี 59 เติบโตที่ 1-2% และอัตรารายได้ต่อห้องพักที่มีอยู่ของบริษัท (RevPar) เติบโต 4-5%