SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,501.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.05 จุด (+1.08%) มูลค่าการซื้อขาย 25,929.25 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุนไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาค หลัง FBI ยัน"ฮิลลารี"ไม่มีความผิดทางอาญากรณีใช้อีเมลล์ส่วนตัว ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐตามที่ตลาดคาดหมาย ส่วนปัจจัยในประเทศให้น้ำหนักการทยอยประกาศงบฯไตรมาส 3/59 คาดบ่ายนี้ตลาดฯน่าจะยืนในแดนบวกได้ต่อ ให้แนวรับ 1,490 แนวต้าน 1,510 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,501.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.05 จุด (+1.08%) มูลค่าการซื้อขาย 25,929.25 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,502.85 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,495.14 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับปัจจัยเชิงบวกจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ไม่มีความผิดทางคดีอาญา ในกรณีการใช้อีเมลล์ส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็น Sentiment เชิงบวก และน่าจะทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลต่อประเด็นที่คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คงจะมีน้ำหนักลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นการเพิ่มความมั่นใจต่อการคาดการณ์ของ บล.ทรีนิตี้ อีกด้วย ซึ่งทางฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็มองมาตลอดว่าพรรคเดโมแครต น่าจะได้รับชัยชนะจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ ซึ่งตลาดก็เริ่มจะให้น้ำหนักเหมือนกับการคาดการณ์ของเรา
สำหรับปัจจัยภายในประเทศในช่วงนี้ค่อนข้างจะน้อยลง โดยเป็นการให้น้ำหนักต่อผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่ทยอยประกาศออกมา
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ตลาดฯน่าจะยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,490 จุด แนวต้าน 1,510 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,277.11 ล้านบาท ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,603.45 ล้านบาท ปิดที่ 7.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,357.87 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,208.59 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
ESSO มูลค่าการซื้อขาย 1,053.03 ล้านบาท ปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท