NEP-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.80 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.11 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.12 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.09 บาท
ขณะที่หุ้น NEP ปิดที่ 0.39 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 6.81 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.39 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.38 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม (NEP) ใช้ชื่อย่อว่า NEP-W3 คาดว่าจะมี All-in Premium +71.7% จากสถานะที่ Out of The Money, อายุที่ยาว 3 ปี, หุ้นแม่ไม่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลและความผันผวนของหุ้นแม่ที่ค่อนข้างสูง ในด้านความน่าสนใจมองว่า NEP-W3 มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นแม่เนื่องจาก Gearing ที่ 3.25 เท่าและการเปลี่ยนแปลงของราคาต่อช่องที่สูง แต่มีปัจจัยที่ต้องระวังคือมูลค่าการซื้อขายของหุ้นแม่ที่ต่ำ (เฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อวัน) อีกทั้งประวัติการดำเนินงานที่มีผลขาดทุน 3 ปีต่อเนื่อง และผลประกอบการงวดครึ่งแรกปีนี้ที่ยังขาดทุน
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 0.39 บาท (4 พ.ย.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ NEP-W3 ที่ 0.12 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่า NEP-W3 ไว้ที่ 0.09-0.15 บาท เมื่อราคาหุ้น NEP เคลื่อนไหวในกรอบ 0.34-0.44 บาท โดยมี Volatility อยู่ที่ 61% per year
NEP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระสอบพลาสติกสาน และลงทุนในบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) และได้มีการขยายกิจการเพิ่มไปยังธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่นๆ เช่น ถุงหูหิ้ว
NEP-W3 จำนวนที่ออก 208.4 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 3 : 2 : 1 (ขึ้นเครื่องหมาย XRW ในวันที่ 8 ก.ย. 2016 ที่ราคา 0.45 บาท) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 0.55 บาท, อายุ 3 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 15 ของเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 ธ.ค. 2559 และครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 ก.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)