นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ในปี 60 มองกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทจะอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เนื่องจากจะมีการโอนที่ดินส่วนใหญ่จากยอดขายที่เข้ามาในปีนี้ และรายได้ประจำ (Recurring Income) จะเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 40% จากปีนี้อยู่ที่ 15%
ประกอบกับ บริษัทจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้า 4 แห่งเพิ่มอีก 500 เมกะวัตต์ (MW) จากปีนี้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนอยู่ที่ 350 MW อีกทั้งจะมีรายได้ค่าสาธารณูปโภคค่าน้ำค่าไฟที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเครือ ก็เชื่อว่าจะช่วยผลักดันกำไรสุทธิของบริษัท
"ในปี 59 คาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะทะลุ 17,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 12,000 ล้านบาท ส่วนปี 60 จะมีการประชุมเพื่อกำหนดเป้ารายได้ และจะประกาศเป้ารายได้ปี 60 ในม.ค.60 ซึ่งปี 60 รายได้จากค่าเช่าจะมากขึ้น ขณะที่รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจะน้อยลง ก็จะบาลานช์กัน"นางสาวจรีพร กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้ยอดขายที่ดินของ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) จะทะลุ 1,100 ไร่ จากเป้าต้นปีตั้งไว้ 1,000 ไร่ ซึ่งถือว่ายอดขายที่ดินดีกว่าที่คาด ซึ่งจากยอดขายทั้งหมดในปีนี้คาดว่าจะสามารถโอนที่ดินบางส่วนได้ภายในปีนี้ แต่ส่วนใหญ่จะไปโอนในปี 60
นางสาวจรีพร กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายปรับสัดส่วนรายได้ประจำขึ้นเป็น 50 ในปี 61 จาก 40% ในปีหน้า เนื่องจากมองว่าจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยปัจจุบัน Recurring income อยู่ที่ 15% Non-Recurring income อยู่ที่ 85%
บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ประจำเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันกลุ่ม WHA มีสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว 548 MW และมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว 350 MW คิดเป็นรายได้ราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งกำลังการผลิตดังกล่าวรวมส่วนที่ร่วมลงทุนกับกลุ่มบี กริม พาวเวอร์ ขนาด 130 MW ซึ่ง WHA ถือหุ้น 25% หรือรับรู้รายได้ราว 30 MW เริ่ม COD ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.59 ที่ผ่านมา
ในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 7 โรง ขนาดกำลังผลิตโรงละ 125-130 MW คาดว่าจะทยอย COD ได้ในปี 60 รวม 500 MW จาก 4 โรง คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 1,500-1,800 ล้านบาท/ปี ส่วนที่เหลืออีก 3 โรงก็จะทยอย COD ในปีถัดไป
นอกจากนั้น บริษัทเตรียมยื่นประมูลขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมรอบที่ 2 ในส่วนที่เหลืออีก 9 MW ด้วยการจับมือกับพันธมิตรเช่นเดิม หลังจากที่ได้มาแล้วในการประมูลรอบแรกที่จะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฯ 6.9 MW จากขนาดกำลังผลิตทั้งหมด 8.6 MW ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/59 และจะเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าราวเดือน ก.พ.60 และสร้างเสร็จปลายปี 62 คาดว่า COD ได้ไตรมาส 4/62 สร้างรายได้จากการขายไฟฟ้าราว 500 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนกับกลุ่ม บมจ. โกลว์ พลังงาน (GLOW)
ด้านธุรกิจกองทุนรวมทั้ง นางสาวจรีพร กล่าวว่า เป้าหมายเดิมของกลุ่ม WHA ต้องการผลักดันให้ 5 กองทุนของกลุ่มบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์แตะ 5 หมื่นล้านบาท ปี 61 จากที่คาดว่าในปี 60 มูลค่าสินทรัพย์รวมจะอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนภายใต้ WHA จำนวน 3 กองทุน และ HEMRAJ อีก 2 กองทุน ซึ่งปัจจุบันทั้ง 5 กอง จ่ายเงินปันผลให้กับ WHA ราว 400 กว่าล้านบาท ถือว่าอยู่ระดับสูง
ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาควบรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม (WHAPF) ขนาด 9 พันล้านบาท กับกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ขนาด 1.3 หมื่นล้านบาท ให้เป็นกองเดียวกัน คาดว่าจะสรุปได้ในปี 60 ซึ่งจะทำให้ขนาดของกองทรัสต์ WHART ใหญ่เร็วขึ้นจากแผนเดิมที่ตั้งเป้าปี 61 ขนาดกองกองทรัสต์ WHART เพิ่มเป็น 21,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นกองทรัสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนั้น ในปี 60 มีแผนเพิ่มขนาดกอง WHART อีก 3,000-4,000 ล้านบาท ให้เป็น 17,000 ล้านบาท โดยในปีหน้านมีสินทรัพย์รอขายเข้ากองทรัสต์อีกกว่า 4 แสนตารางเมตรอยู่ระหว่างคัดเลือกสินทรัพยคาดว่าจะนำเข้าราว 1.5 แสนตารางเมตร ส่วนที่เหลือจะเข้าในปีถัดไป
"แผนการรวม 2 กองทุนก็เพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นรวมกันแล้วก็ 2.2 หมื่นล้านบาท มีสินทรัพย์ที่หลากหลายให้กับผู้เช่า สภาพคล่องสูงขึ้น และเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับผู้ถือหุ้นหน่วย จากที่มีหลายอาคารให้กับผู้เช่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้รอดูเรื่องภาษีเรื่องเดียว"นางสาวจรีพร กล่าว