นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 59 รายได้จากการบริการ 30,626 ล้านบาท เพิ่ม 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน จำนวนลูกค้าเพิ่ม 5 แสนราย รวมเป็น 39.9 ล้านราย ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ต่อเนื่องทั้งด้านรายได้และจำนวนลูกค้า มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย
ผลประกอบการในไตรมาสนี้ของเอไอเอสเติบโตดี เป็นผลมาจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่โตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ในส่วนการใช้งานบริการข้อมูลเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนตามแนวโน้มการใช้งานของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือสูงขึ้นเป็น 3 กิกะไบต์ต่อเดือน จากความนิยมในการใช้งานโซเชียลมีเดีย และวิดีโอคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการขยายเครือข่าย 4G ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพเครือข่ายที่รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้ แพ็กเกจราคาที่ดึงดูดใจ รวมทั้งโปรโมชั่นมือถือราคาพิเศษยังช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้ากว่า 5 แสนเลขหมาย รวมเป็น 39.9 ล้านเลขหมาย ซึ่งนับว่าเพิ่มสูงสุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เอไอเอสไฟเบอร์ มีการเติบโตที่ดีอย่างเห็นได้ชัด โดยรายได้ในไตรมาส 3 ปี 59 เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าของปีก่อน และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเดือน สูงกว่าปีที่แล้วถึง 4 เท่า ณ สิ้นไตรมาส มีลูกค้ารวม 195,000 ราย พร้อมทั้งขยายพื้นที่บริการครอบคลุม 3 ล้านครัวเรือนใน 28 จังหวัด ด้วยราคาเริ่มต้น 590 บาท สำหรับความเร็ว 20/7 Mbps พร้อมส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าเอไอเอสระบบรายเดือน
“การเติบโตของเอไอเอสในภาพรวมของไตรมาสนี้ เป็นผลมาจากการมุ่งดำเนินงานตามกลยุทธ์หลัก ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลแก่คนไทย เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน โดยการพัฒนาคุณภาพเครือข่าย 4G ความเร็วสูงที่ได้เร่งขยายเครือข่ายให้เข้าถึงลูกค้าทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย รวมไปถึงการพัฒนาเครือข่าย 3G และ 2G อย่างต่อเนื่อง ทำให้เอไอเอสเป็นเครือข่ายคุณภาพที่ครอบคลุมที่สุดของประเทศ อีกทั้งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เอไอเอสไฟเบอร์ ที่ตอบสนองความต้องการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ในทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำต่างๆ ส่งมอบดิจิทัลคอนเทนต์ที่หลากหลาย ตรงใจ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่น AIS PLAY"นายสมชัย กล่าว
แนวทางดังกล่าวนี้ จะช่วยให้ธุรกิจของเอไอเอสสามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ทำให้เอไอเอสสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมีเครื่องยืนยันจากการเป็นผู้ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมเพียงรายเดียวของไทย ที่ติดอันดับในดัชนีความยั่งยืน ดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมมุ่งมั่นสร้างสรรค์ และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย เพื่อให้คนไทยได้เชื่อมต่อถึงกันอย่างสะดวกสบาย เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้มากกว่าเดิม และช่วยให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นในทุกๆ ด้าน