นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ทีพีบีไอ (TPBI) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 คาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เนื่องจากแผนดำเนินงานปีนี้มีเป้าหมายต้องการขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (High Value Added) ได้แก่ กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับการอุปโภคและบริโภค และกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มลามิเนตและฟิล์มแบริเออร์ เหมาะสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป รองรับความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถทำสัดส่วนการขายสินค้า High Value Added ให้ได้ 20% ภายในปีนี้
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 101.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 91.68 ล้านบาท และมีรายได้รวมทำได้ 1,301.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.91% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,240.76 ล้านบาท
สำหรับการเติบโตของไตรมาส 3/59 ดังกล่าว มาจากปัจจัยการขยายตัวของ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับการอุปโภคและบริโภค, ผลิตภัณฑ์ถุงขยะ, สินค้าอื่นๆเช่น เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ เนื่องจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ มีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ TPBI ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 3,640.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.20% เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,427.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 292.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.70% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา
“ไตรมาส 3 กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับการอุปโภคและบริโภค, ผลิตภัณฑ์ถุงขยะ, สินค้าอื่นๆเช่น เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ เติบโตได้อย่างโดดเด่น จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นมาก โดยเรามีความพร้อมด้านกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้สามารถรองรับโอกาสการขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยผลักดันการเติบโตของเราได้" นายกมล กล่าว