โบรกฯเชียร์"ซื้อ"SMT คาดพลิกกำไรใน Q3/59 ตามมาร์จิ้นเพิ่มจากสินค้ามูลค่าสูงหนุน,ปี 60 โดดเด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 9, 2016 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) หลังมองผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นหลังรับรู้รายได้จากสินค้าที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ พร้อมคาดปี 60 จะเป็นปีที่โดดเด่นจากการเริ่มผลิตสินค้าใหม่ที่มีมูลค่าสูงให้กับลูกค้า ขณะที่ทยอยลดการผลิตสินค้าประเภท Hard Disk Drive (HDD) ลงต่อเนื่องและหยุดผลิตในปีหน้า ก็จะผลักดันดันให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า

ทั้งนี้ มองว่าหุ้น SMT จะมี premium จากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากมีคาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) สูงถึง 59.3% ในปี 60-61 สูงกว่าคาดการณ์ของกลุ่มฯที่เติบโตประมาณ 10% เท่านั้น

ราคาหุ้น SMT พักเที่ยงอยู่ที่ 6.75 บาท ลดลง 0.10 บาท (-1.46%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 1.32%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เคจีไอฯ                        ซื้อ                            8.25
          บัวหลวง                        ซื้อ                            9.00
          โนมูระ พัฒนสิน                   ซื้อ                            7.80

นายวิกิจ ถิวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และปัจจัยทางเทคนิค บล.บัวหลวง กล่าวว่า ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ SMT ในช่วงครึ่งหลังของปี 59 และในปี 60 แม้ว่าจะปรับลดประมาณการกำไรปี 59-60 ลง 16% และ 13% เป็น 277 และ 500 ล้านบาทตามลำดับ เพราะสัดส่วนสินค้าประเภท HDD ลดลงเร็วกว่าที่ประเมิน โดยคาดเหลือเพียง 37% และ 22% ของรายได้รวม จึงปรับลดสมมติฐานรายได้ลง 20% และ 15% เป็น 4,904 ล้านบาท และ 6,232 ล้านบาทตามลำดับ แต่ยังคงคาดสินค้าใหม่ที่เริ่มผลิตและมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จะช่วยหนุนให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 10.5% และ 12.8% ในปี 59-60

"สัดส่วนสินค้าประเภท MMA ลดลงเร็วกว่าคาด ส่งผลให้เราปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรลง แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ ที่คาดจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลัง และปี 60 เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาที่ 9.00 บาท จาก 9.15 บาท"นายวิกิจ กล่าว

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์โดยคาดว่าผลประกอบการของ SMT จะพลิกฟื้นในไตรมาส 3/59 เป็นมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 53 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้น 59% จากระดับ 32 ล้านบาทในไตรมาส 2/59 ปัจจัยหลักจะมาจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นตามการรับรู้รายได้จากสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ Optical, Medical, และสินค้าผู้บริโภคขั้นสูง

อย่างไรก็ตาม คาดรายได้ไตรมาส 3/59 จะอยู่ที่ 880 ล้านบาท ลดลง 48.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 6% จากไตรมาสก่อน เป็นไปตามยอดขายสินค้ากลุ่ม HDD หดตัว แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.5% จาก 2.6% ในช่วงไตรมาส 3/58 และ 9.9% ในช่วงไตรมาส 2/59 จากการเริ่มผลิตสินค้าให้ลูกค้าใหม่ 4 ราย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ด้านค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร คาดจะยังคงอยู่ในระดับที่จัดการได้ที่ 55 ล้านบาท เทียบกับ 67 ล้านบาท ในไตรมาส 3/58 และ 55 ล้านบาทในไตรมาส 2/59

นอกจากนี้ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ SMT โดยคาดว่ากำไรรายไตรมาส 4/59 จะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 91 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเริ่มผลิตสินค้าใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงให้กับลูกค้าใหม่ 7 ราย ต่อเนื่องจากที่มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 2 รายในไตรมาส 2/59 และ 4 รายในไตรมาส 3/59

ขณะที่ปี 60 จะเป็นปีที่โดดเด่นของ SMT โดยคาดว่ากำไรรายไตรมาสจะขึ้นยืนเหนือหลักร้อยล้านบาท และกำไรรายปีจะโตถึง 87% เมื่อเทียบกับปีนี้ ผลักดันโดยการเริ่มผลิตสินค้าให้ลูกค้าใหม่อย่างน้อย 5 ราย และการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ที่เข้ามาในปี 59 เต็มปี

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ"ซื้อ"โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 8.25 บาท โดยเชื่อว่าหุ้น SMT สมควรที่จะมี premium จากกลุ่มฯเนื่องจากมีคาดการณ์การเติบโต EPS สูงถึง 59.3% ในปี 60-61 สูงกว่าคาดการณ์ของกลุ่มฯที่เติบโตประมาณ 10% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม SMT ยังมีความเสี่ยงจากการสินค้า HDD ที่อาจหดตัวเร็วและแรงกว่าที่คาด ในขณะที่สินค้าใหม่บางตัวมีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์สั้น ซึ่งอาจจะลดความต่อเนื่องของการสั่งซื้อสินค้า

ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุด้วยว่า มีมุมมอง Neutral ต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 ของ SMT โดยคาดมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/58 และเติบโต 48% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้ากลุ่ม HDD ลดลงต่อเนื่อง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นมาที่ 11.5%

ทั้งนี้ บริษัทจะลดการผลิตสินค้า HDD ลงต่อเนื่องในครึ่งหลังปีนี้ และหยุดผลิตในปี 60 รวมทั้งตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นที่ 11.2% ในปี 59 และ 17.5%-20.0% ในปี 60 ตามเป้าหมายใหม่ของบริษัท ทำให้โนมูระ พัฒนสิน ปรับประมาณการปี 59 ลงจากเดิม 5% ส่วนปี 60-61 ปรับเพิ่มกำไรสุทธิอีก 6% และ 22% ตามลำดับ รวมทั้งประเมินราคาเป้าหมายใหม่ของ SMT ที่ระดับ 7.80 บาท จากเดิม 7.40 บาท) โดยมองว่า SMT มีประเด็นบวกจากกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มดีต่อเนื่องรายไตรมาส และเติบโตสูงกว่ากลุ่มฯ ในปี 60


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ