AGE เชื่อปริมาณขายถ่านหินปีนี้โตเข้าเป้า 2.2 ล้านตัน หลังสิ้น Q3/59 ได้ยอด 1.65 ล้านตัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2016 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าปริมาณยอดขายถ่านหินของบริษัทในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ระดับ 2.2 ล้านตัน ซึ่งจะมีการสั่งออเดอร์จากประเทศจีน และเวียดนาม เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ เพื่อนำไปใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/59 บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวมอยู่ที่ระดับ 1.65 ล้านตัน จากทั้งปีที่คาดว่าจะมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินเติบโต 10% บริษัทยังคงมุ่งเน้นนโยบายบริหารต้นทุนการขนส่ง และ คลังสินค้า รวมทั้ง ประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม

พร้อมกันนั้น บริษัทยังคงเน้นการดำเนินธุรกิจหลัก คือการจำหน่ายถ่านหินสะอาด โดยจะมีการทำการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และเวียดนาม และคาดว่าปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปกับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม เพื่อรุกทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น

"ในช่วงไตรมาส 3/59 ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจถ่านหินอีกครั้ง จากก่อนนี้ประสบปัญหาในเรื่องของปริมาณถ่านหินล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ และเชื่อว่าราคาถ่านหินได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว บริษัทจึงเดินหน้าทำการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะถ่านหินยังคงมีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง" นายพนม กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 บริษัทมีรายได้ 1,134.19 ล้านบาท ลดลง 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัท มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,216.39 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 17.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 72.9 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 59 ของบริษัทมีรายได้รวม 3,134.30 ล้านบาท ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัท มีรายได้รวม อยู่ที่ 3,557.78 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 60.71 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 107.44 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 73.27 ล้านบาท ถ้ามีการหักกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนออก จะทำให้เห็นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยปรับตัวสูงขึ้น 87.46% เมื่อเทียบกับปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ