นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มเทคโนโลยี ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ โดย COMAN เป็นผู้พัฒนาโปรแกรม Comanche Hotel Software and Data Base ซึ่งใช้บริหารจัดการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวขึ้นไป อาทิ โรงแรมในเครือเซ็นทารา เครืออิมพีเรียล เครืออีสติน เครือแคนทารี และเครือโอ๊ควู้ด
นอกจากนี้ COMAN มีนโยบายลงทุนในธุรกิจที่มีลักษณะใกล้เคียงหรือสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ถือหุ้น 99.99% ของทุนชำระแล้ว ในบริษัท เอ็มเอสแอล ซอฟต์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของดิจิตอลโซลูชั่นเพื่อใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับองค์กร (Enterprise Data Management Solutions) มุ่งเน้นลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจการเงินและการธนาคาร และสายการบิน เป็นต้น
COMAN มีทุนชำระแล้ว 67 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 100 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 34 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 2-4 พ.ย.59 ในราคาหุ้นละ 7.80 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 265.20 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,045.20 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COMAN เปิดเผยว่า ปัจจุบัน COMAN มีลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการห้องพักราว 650 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 540 แห่ง และต่างประเทศ 110 แห่ง ใน 17 ประเทศ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการเป็นผู้พัฒนาและให้บริการระบบงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมและโซลูชั่นที่เกี่ยวเนื่องภายในกลุ่มบริษัท การลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจหลัก รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
COMAN มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ถือหุ้น 38.06% และกลุ่มนายอภิชัย สกุลสุรียเดช 36.57% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 31.2 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิของงบการเงินรวมในรอบ 12 เดือน (1 ก.ค.58-30 มิ.ย.59) ซึ่งเท่ากับ 33.98 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.25 บาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลของบริษัทและบริษัทย่อยในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด