นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ทรีนิตี้ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาด IPO ในปี 60 น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าปีนี้ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น และตลาดหุ้นไทยที่ไม่น่าจะแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้าใหม่ และน่าจะเห็นหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยงานด้านวาณิชธนกิจของ บล.ทรีนีตี้ มีงานที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 7-8 ดีลในขณะนี้ คาดปีหน้าน่าจะเห็นการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนได้ราว 3 ดีล ซึ่งขนาดของธุรกิจตั้งแต่ 1,000-10,000 ล้านบาท และมีความหลากหลาย เช่น โลจิสติกส์ , พลังงานทดแทน, อาหารและเครื่องดื่ม, รับเหมาก่อสร้าง และเทคโนโลยี (IT) เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการซื้อกิจการและร่วมทุน (M&A) ในมือขณะนี้ราว 3-4 ดีล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ และ อาหารและเครื่องดื่ม คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ของปี 60
ขณะที่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ทางบล.ทรีนิตี้ มีการรับดูแลงานการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทจดทะเบียนไทย และบริษัทอื่นๆที่มีความต้องการ ขนาดของธุรกิจไม่เกิน 10,000 ล้านบาท และอายุหุ้นกู้ในช่วง 1-3 ปี โดยปัจจุบันก็มีงานในมือราว 6-7 ดีล และน่าจะดำเนินการต่อเนื่องต่อไปในปีหน้า
"ปีหน้าตลาด IPO น่าจะดีกว่าปีนี้ จากงานในมือที่มีอยู่ และโอกาสที่จะมีดีลใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมอีก รวมถึงมูลค่าการระดมทุนก็น่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้เช่นกัน ซึ่งมองว่าตลาดไม่น่าจะแกว่งไซด์เวย์มากนัก จากปัจจัยต่างๆก็ได้มีการตอบรับไปหมดแล้ว และมีการตั้งรับที่ดีของนักลงทุน" นางสาวสุธางค์ กล่าว
นางสาวสุธางค์ กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมงาน IB ในปีนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงชะลอตัวส่งผลทำให้ IPO ในภาพรวมปรับลดลงมาอยู่ที่ 20-25 บริษัท โดยปีนี้ บล.ทรีนิตี้ ตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งสิ้น 2-3 บริษัท แต่ด้วยภาวะโดยรวมทำให้ต้องปรับลดลงเหลือเพียง 1 บริษัท คือ บมจ.โคแมนซี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) ที่จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) ส่วนดีลที่เหลือเลื่อนไปเป็นปีหน้า
อีกทั้งในปีนี้มูลค่าระดมทุน ต้องยอมรับว่าลดลงเช่นเดียวกัน จากในช่วง 2 ปี (57-58) ที่ผ่านมา มีมูลค่าการระดมทุนอยู่ที่ 30,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้มูลค่าดังกล่าวได้ลดลงเหลือ 20,000 กว่าล้านบาท
สำหรับการเข้าซื้อขายหุ้น COMAN ในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกนั้น บล.ทรีนิตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน มองว่า หุ้นดังกล่าวถือว่ามีการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากประสบการณ์การทำงานที่ยาวนานกว่า 30 ปี และมีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีทิศทางการเติบโตที่ดีในอนาคต น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะเป็นจุดแข็งของ COMAN
ขณะที่การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือการเป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตและพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ที่จะมุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมไอทีด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมั่นว่าหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดฯไปแล้ว COMAN น่าจะมีความพร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนได้ตามแผนงานที่วางไว้ทันที