นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า คาดดัชนีฯจะแกว่งตัวแบบ sideway รอดูนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ออกมาแถลงหรือพูดถึงนโยบายว่าจะนำมาใช้จริงได้แค่ไหน ขณะที่ตลาดต่างประเทศที่เป็นบวกเนื่องมาจากเริ่มให้น้ำหนักกับนโยบายของนายทรัมป์ว่าจะออกไปในทางใด
สำหรับนโยบายของนายทรัมป์ที่กำลังพูดถึงในตลาดดังนี้ 1.ลดภาษีและภาครัฐลงทุนมากขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น เงินเฟ้อมา ดอกเบี้ยขึ้นตาม และดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น 2.เกษตรกรของสหรัฐฯ อาจขายของยากขึ้น ถ้าใช้นโยบายกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะกับจีนและเม็กซิโก 3.ราคาน้ำมันดิบเป็นลบ เพราะนโยบายสนับสนุนให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้ภาระตกไปอยู่ที่ OPEC ว่าจะคุม supply ได้อย่างไร
ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบ WTI เกาะอยู่แถวๆ $44 เหรียญ รอความชัดเจนในเรื่องการลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน จาก 3 ข้อด้านบน เราประเมินส่วนที่มีผลต่อตลาดมากที่สุดในวันนี้ คือมาตรการลดภาษี เพราะเห็นผลก่อน GDP ช่วงสั้นที่จะดีขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นบวก แม้ระยะยาวจะดูเป็นลบก็ตาม จากปัญหาขาดดุลงบประมาณที่จะตามมา
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์จะมีความผันผวนสูง และมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเทียบกับเกือบทุกสกุล แม้กระทั่งเงินเยน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง (อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ขยับขึ้นจากก่อนเลือกตั้งที่ 1.83% เป็น 2.15% ในคืนที่ผ่านมา) สะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงขึ้น
ส่วนปัจจัยอื่นๆ จะเป็นของไทยเอง คือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งการลงทุน การใช้จ่าย และการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งยังเป็นช่วงของการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/59 จากข้อมูลที่รวบรวมล่าสุด 201 บริษัท รายงานกำไรมาแล้ว 1.4 แสนล้านบาท ลดลง 14% QoQ กำหนดการรายงานกำไรไตรมาส 3 คือไม่เกินเช้าของวันที่ 15 พ.ย.จะเห็นได้ว่า นักลงทุนเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไรโดยใช้ปัจจัยภายในเป็นหลัก คือกลุ่มที่เป็น domestic play และหุ้นงบดี
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังมีความผันผวนสูงแต่เอาแน่นอนไม่ได้ การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ขาดปัจจัยบวกเฉพาะตัวยังมีความเสี่ยงจากการขายของนักลงทุนต่างประเทศ หุ้นที่จะเข้าเก็งกำไรในวันนี้ ควรเป็น selective buy คือเลือกด้วยปัจจัยบวกเฉพาะตัว เน้นหุ้นมีรายได้ในประเทศและกำไรดี ส่วนหุ้นในกลุ่มที่อิงการส่งออกและน้ำมัน ยังมีความไม่แน่นอนในทิศทาง ควรรอดูความชัดเจนของนโยบายของนายทรัมป์ก่อน หุ้นที่แนะนำ ได้แก่ TMW,KGI,CPALL,IVL,LOXLEY,THREL