นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 127% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69 ล้านบาท และมีรายได้รวม 15,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,747 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 11,938 ล้านบาท
การเติบโตของทั้งกำไร และรายได้เกิดจากปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 686 ล้านลิตร เพิ่มสูงขึ้นถึง 35% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีปริมาณการขายน้ำมันอยู่ที่ 507 ล้านลิตร เนื่องจากบริษัทยังคงขยายจำนวนสถานีบริการให้เพิ่มขึ้น และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ "พีที" อย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณการขายต่อสถานีต่อเดือนยังคงเติบโต ทั้งนี้ รายได้หลักยังคงมาจากการค้าปลีกและค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็น 98.5% ของรายได้ทั้งหมด
โดยในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายของปริมาณการขายให้เพิ่มขึ้น 30-40% จากปีก่อน EBITDA ที่เติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากปีก่อน และจำนวนสมาชิก PT Max Card อยู่ที่ 5.6 ล้านราย ซึ่งไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว และเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้มีการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงบริษัทฯยังคงเดินหน้าเพิ่มพันธมิตรทางการค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องภายใต้แบรนด์ PT Maxnitron เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่คุ้มค่า และที่สำคัญที่สุดบริษัทฯ จะสร้างสรรค์สินค้า และบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และมูลค่าให้กับองค์กรในระยะยาว
“ภาพรวมของผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหน้าฝน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการขาย และการทำกำไรที่เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว ในขณะที่ไตรมาสสุดท้ายก็จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเรายังเดินหน้าเพิ่มความรับรู้ และความคุ้นเคยในแบรนด์พีที ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มคนเมือง ดังจะเห็นได้จากการเริ่มขยายสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงเสริมความหลากหลาย และครบครัน ในสถานีบริการทั่วประเทศ เพื่อให้บริการลูกค้า และสมาชิกที่จะมีไม่น้อยกว่า 5.6 ล้านรายในปลายปี 59"นายพิทักษ์ กล่าว