FN มั่นใจเทรด 14 พ.ย.ยืนเหนือจอง มั่นใจธุรกิจแกร่ง-ลุยเพิ่มสาขาดันรายได้โต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 11, 2016 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจและมีความพร้อมสำหรับการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คาดได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สะท้อนจากการนำเสนอข้อมูลหรือโรดโชว์ต่อนักลงทุนในประเทศรวม 13 จังหวัด และนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความสนใจจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.59 ในจำนวนที่มากกว่าจำนวนหุ้นเสนอขาย

ทั้งนี้ เกิดจากความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าประเภท “เอ๊าท์เลท" ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีกรายอื่น เนื่องจากมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทกว่าร้อยละ 66 ของรายได้จากการจำหน่าย รวมถึงการมีแผนในการขยายธุรกิจที่ชัดเจน

FN จะเป็นหุ้น IPO อีกตัวหนึ่งที่มีความน่าสนใจ จากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และมีจุดเด่นที่โอกาสในการขยายตัวในอนาคตที่สูงตามแผนการขยายสาขา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ FN มีความโดดเด่น ซึ่งจากการจัดสรรหุ้นให้นักลงทุน ทำให้เราได้ทราบถึงความต้องการของนักลงทุนที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางจนถึงระยะยาว FN จะยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจจากแนวโน้มในการเติบโตในอนาคต

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ไซรัส ผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น FN กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายมีความเชื่อมั่นว่า FN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก FN จะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 3.88 บาทได้

จากการเสนอขายหุ้นร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายทั้ง 6 ราย สามารถกระจายหุ้นยังนักลงทุนทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง แต่ด้วยความต้องการจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนที่มากกว่าจำนวนที่เสนอขาย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่นักลงทุนที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นจะสามารถเข้าลงทุนหลังจาก FN เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกไปแล้ว

"เราเชื่อมั่นในพื้นฐาน และการเติบโตที่โดนเด่นในอนาคตของ FN และด้วยการกำหนดราคาที่เหมาะสม ประกอบกับความต้องการของนักลงทุนซึ่งมากกว่าหุ้นที่เสนอขาย ทำให้คาดว่า FN จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องหลังจากเข้าทำการซื้อขายแล้ว เพราะในระยะกลางและระยะยาว FN จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่น่าสนใจ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน" นายสมภพกล่าว

นายปรีชา ส่งวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร FN กล่าวว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าประเภท “เอ๊าท์เลท" ภายใต้ชื่อ “เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท“ ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ประเภทเสื้อผ้า เครื่องนอน เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ภายในบ้าน ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท และตราสินค้าอื่นๆ ที่เป็น International Brand เป็นส่วนใหญ่

ปัจจุบันบริษัทฯ มีเอ๊าท์เลททั้งสิ้น 7 สาขา ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี พัทยา ปากช่อง สิงห์บุรี หัวหิน และสาขาศรีราชา นอกจากนี้ บริษัทมีบริษัทย่อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท เซฟ นาว 2494 จำกัด (SN) ซึ่งปัจจุบันมีร้าน SAVE NOW หนึ่งแห่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

"เราตั้งใจที่จะนำธุรกิจสู่มาตรฐานสากล ต้องการสร้างความหลากหลาย และตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งบริษัทเสาะหา และคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะจากทั่วโลก มาวางจำหน่ายเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า"นายปรีชากล่าว

นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FN กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินจากการระดมทุนในการเปิดสาขาเพิ่ม 5 สาขา โดย 1 ใน 5 สาขา ได้แก่ สาขาอยุธยา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ย.59 ซึ่งบริษัทใช้แหล่งเงินจากกระแสเงินสดภายในกิจการเป็นหลัก สำหรับอีก 4 สาขา ที่เหลือมีแผนจะเปิดภายในปี 61 คาดว่าจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 120 ล้านบาท รวมถึงปรับปรุง 7 สาขาเดิม

"มีความมั่นใจในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่าย รวมถึงผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น ทำให้ได้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ FN ซึ่งหลังจากนี้จะถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร และทีมงานที่จะต้องนำพาธุรกิจของ FN ให้เติบโตไปอย่างมั่นคง และยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน และผู้ถือหุ้นต่อไปในอนาคต"นายเบญจ์เยี่ยมกล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 58 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายเท่ากับ 1,102.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 146.43 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปี 59 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายเท่ากับ 767.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 99.51 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ