(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวหลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มชะลอแข็งค่า-ราคาน้ำมันขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2016 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงสั้น จากที่เริ่มผ่อนคลายเรื่องเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเร็วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้วิตกเงินทุนจะไหลออก แต่ขณะนี้เริ่มเห็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯชะลอการแข็งค่าขึ้นแล้ว ซึ่งคงจะเพื่อรอดูทิศทางต่อไปก่อน และนักลงทุนต่างชาติที่ผ่านมาก็ได้ขายออกมามากแล้วด้วย

นอกจากนี้หุ้นบิ๊กแคป อย่างหุ้นในกลุ่มธนาคารก็ปรับตัวลงไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานก็น่าจะปรับตัวขึ้นได้จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,474-1,485 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 พ.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,923.06 จุด เพิ่มขึ้น 54.37 จุด (+0.29%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,275.62 จุด เพิ่มขึ้น 57.22 จุด (+1.10%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.39 จุด เพิ่มขึ้น 16.19 จุด (+0.75%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 164.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 24.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.51 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.08 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.47 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 พ.ย.59) 1,476.46 จุด เพิ่มขึ้น 7.23 จุด(+0.49%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,671.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 พ.ย.59) ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือ 5.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 พ.ย.59) ที่ 7.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.42 กลับมาอ่อนค่าหลังดอลล์แข็งจากตัวเลขศก.สหรัฐหนุน-เงินยังไหลออก
  • กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นผลจากนโยบายของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ทำให้เงินทุนไหลออกจากเอเชียกลับไปที่สหรัฐอเมริกา ซึ่ง 5 วันต่างชาติขายพันธบัตรไทยและนำเงินออกไปแล้ว 5.78 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาคนี้เจอปัญหาเดียวกัน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า เดือน ต.ค. ทั่วประเทศมีปริมาณเช็คเรียกเก็บทั้งสิ้น 5.5 ล้านใบ ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน 4 หมื่นใบ หรือ 0.72% มีมูลค่ารวม 2.9 ล้านล้านบาท ลดลง 9.2 หมื่นล้านบาท หรือ 3.11% ในจำนวนนี้มีเช็คคืนไม่มีเงิน (เช็คเด้ง) 6.21 หมื่นใบ (คิดเป็นสัดส่วน 1.1% ของเช็คเรียกเก็บรวม) มีมูลค่ารวม 8,680 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 0.3% ของเช็คเรียกเก็บรวม) ลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า 562 ใบ หรือ 0.91% และ 160 ล้านบาท หรือ 1.81% ตามลำดับ
  • ลุ้นมติ ครม.สัปดาห์หน้า เห็นชอบเดินหน้าโครงการเน็ตหมู่บ้าน 24,700 หมู่บ้าน วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท หลังเจอเลื่อนมานานปี 'ประจิน' เผยไทยเสนอรัฐมนตรี 24 ชาติผ่านประชุมไอทียู เชื่อมโยงดิจิทัลระดับโลก เตรียมพร้อมเข้ายุคอินเตอร์เน็ต ออฟ ติงค์
  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติผลการเจรจาการบินระหว่างไทยและรัสเซีย เพื่อส่งเสริมให้คนรัสเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น โดยเป็นการอนุมัติให้รัสเซียเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทย 2 จุดหมายปลายทาง คือ กรุงเทพฯ จากเดิมกำหนดให้บินได้ 70 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มอีก 35 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมเป็น 105 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และที่ภูเก็ต จากกำหนดเดิม 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มเป็น 56 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนไทยที่กำหนดให้บินไปยังกรุงมอสโกได้ 70 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มอีก 35 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวม 105 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และอีกจุดหมาย คือ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จากเดิมกำหนดไว้ที่ 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 56 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
  • จับตาประมูลรถไฟทางคู่ 9 หมื่นล้านบาทส่อพิรุธ หลังพบแฝงงบจัดซื้อเครื่องทุ่นแรงนับพันล้านให้เอกชนยืมใช้ เมินข้อท้วงติงจาก สตง. ด้าน ร.ฟ.ท.ยันทุกโครงการโปร่งใส ดำเนินการตามขั้นตอน ผ่านการพิจารณาจากบอร์ดและคณะกรรมการคุณธรรม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TTCL (ทรีนีตี้) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 24.60 บาท จากลุ้นลงนามโรงงานปุ๋ยในประเทศเติร์กเมนิสถาน และมี upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งจะช่วยหนุนทั้งงานก่อสร้างมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท (ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ) และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าอีกปีละกว่า 900 ล้านบาท
  • BCH (เคจีไอฯ) "ซื้อ"เป้า 14.30 บาท กำไรสุทธิใน 3Q59 อยู่ที่ 243 ล้านบาท (+69% YoY, +56% QoQ) ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งมาก โดยสูงกว่าประมาณการของเคจีไอฯ และของตลาดถึง 16% ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 9M59 คิดเป็น 76% ของประมาณการทั้งปี โดยคงคาดว่า WMC จะรับบทสำคัญในการหนุนให้กำไรของ BCH ในปี 2559 ฟื้นตัวขึ้น YoY จากจำนวนผู้ป่วยที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น
  • PLANB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.30 บาท ท่ามกลางกำไร 3Q59 ที่ลดลงของหุ้นหลายตัวในกลุ่มมีเดียตามทิศทางของตลาดโฆษณา แต่กำไรของ PLANB เติบโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ในอัตรา +11% จากการขยายสื่อดิจิตอลในต่างจังหวัดและ Utilization rate เพิ่มขึ้น สำหรับกำไร 4Q59 ที่คาดลดลงถึง 60-70% Q-Q เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว โดยยังคาดกำไรปี 2560 +46% ส่วนหนึ่งจากรายได้บริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลและบริษัทพรีเมียร์ลีกฯ
  • PTTGC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 71 บาท บริษัทเปิดตัวโครงการ Better to the MAX ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง PTTGC และ McKinsey ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งด้านการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และพัฒนาระบบการทำงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มรายได้ โดยโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินงานตั้งแต่กลางปี 2559 จนถึงปี 2562 บริษัทคาดหวังว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม EBIT ได้ปีละ 200-300 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2562 ด้านความคืบหน้าโครงการลงทุน 1) มาบตาพุดรีโทรฟิต (MTP retrofit) อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับเหมา คาดว่าดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2563 2) โครงการ พีโอ โพรีอัล (PO Polyols) อยู่ระหว่างจัดหาเงินทุนและจัดหาผู้รับเหมา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในปี 2563 3) โครงการปิโตรเคมีคัลคอมเพล็กในสหรัฐ (Petrochemical complex) มีโอกาสเลื่อนการลงทุนออกไป โดยในปัจจุบันกำลังศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติมหลังนายโดนัล ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ