นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) เปิดเผย แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/59 คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมทางบริษัทฯมี แผนจะเปิดโครงการตลาดนัดกลางคืนใจ กลางกรุงแห่งใหม่ “Talad Neon-Downtown Night Market" บนพื้นที่รวม 10 ไร่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
ความคืบหน้าโครงการทางเดินลอยฟ้า Bangkok Skyline เฟสที่ 2 ตั้งแต่โครงการเดอะ มาร์เก็ต ถึงศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2560 โดยก่อนหน้านี้การก่อสร้างในเฟสแรกตั้งแต่ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ไปถึงโครงการ เดอะ มาร์เก็ต ได้แล้วเสร็จ และเปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อ ระหว่างศูนย์การค้า และอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนมากขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อยสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 59 บริษัทมีกำไร 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 1,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,296 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 62% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 3/59 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ส่งเสริมอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงาน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าเช่าพื้นที่ระหว่างปีสำหรับพื้นที่เช่าที่สิ้นสุดสัญญาเช่าของโครงการเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากพื้นที่เช่าของโครงการดังกล่าวจากการปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วนของร้านอาหารที่บริษัทฯ ดำเนินงานเองเป็นพื้นที่เช่าและบริษัทฯได้เข้าทำสัญญาเช่าเหมาพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ให้บริการป้ายโฆษณาของนิติบุคคล อาคารชุด เดอะแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 และได้นำมาบริหารจัดการเพื่อหารายได้จากการให้เช่าพื้นที่จัดงานและพื้นที่ป้ายโฆษณาภายในศูนย์การค้าส่งผลให้รายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2559 เพิ่มขึ้นจำนวน 13 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากในปี 2559 บริษัทฯได้ปรับอัตราราคาค่าห้องพักเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ มีลูกค้าองค์กรธุรกิจเข้าพักอาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีอัตราค่าห้องพักอาศัยอยู่ในระดับราคาที่สูง