นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. บิ๊กคาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/59 โดยได้รับอานิสงส์จากไลน์อัพสินค้าใหม่ของทุกๆ ค่ายกล้องถ่ายภาพยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Fuji, Olympus, Sony, Panasonic ได้ทยอยเปิดตัวสินค้า และจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4/59 ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค. 2559 นี้ บริษัทฯจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาด (อีเวนต์) ภายในงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีถ่ายภาพระดับประเทศ ชื่องาน "โฟโต้ แฟร์ 2016" ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของ BIG ซึ่งในแต่ละปีสามารถกระตุ้นยอดขายกล้องถ่ายภาพได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจ Print คาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ในอนาคต โดยในปีนี้เปิดสาขาไปแล้ว 1 แห่ง กระแสตอบรับดีมาก และเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง บริษัทฯมีแผนเปิดเพิ่มเป็น 5 แห่งในปี 60 เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
สำหรับในปี 59 คาดว่ารายได้จะเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในส่วนของกำไรมีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายกล้องถ่ายภาพที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงไตรมาส 3/59 ที่ผ่านมา เป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนรุ่นของกล้องดิจิตอลรวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่บางรายการที่ทางผู้ผลิตไม่สามารถผลิตได้ทันในช่วงไตรมาส 3 ทำให้รายได้ในไตรมาส 3 ของปี 59 สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่มากนัก แต่จากการบริหารจัดการในส่วนของสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการวางประเภทสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทำให้ต้นทุนการขายและการบริการของบริษัทลดลง ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินของบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 มีรายได้รวม 3,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 727 ล้านบาท หรือ 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 3,147 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285 ล้านบาท หรือ 109% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 261 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,181 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท หรือ 8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (1 มกราคม-30 มิถุนายน 2559) ในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 1 ธันวาคม 2559
นายธนสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 60 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากการขยายสาขากล้องถ่ายภาพ BIG Camera อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้จะมีสาขาจำหน่ายกล้องถ่ายรูปทั้งสิ้น 10 สาขา และขยายสาขา Printing จำนวน 2 สาขา รวมถึงสาขาจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปีนี้จะอยู่ที่ 2 สาขา ซึ่งจะเน้นพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า โดยเฉลี่ยจะเปิด 15 สาขาต่อปี ขณะที่งบลงทุนปกติจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2-2.5 ล้านบาทต่อสาขา
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจการจำหน่ายกล้องถ่ายรูปราว 90% โดยปีหน้าคาดว่าธุรกิจ Printing และโมบาย น่าจะมีสัดส่วนรายได้ขยับเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือ 5% และที่เหลือจะเป็น Printing อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงานปี 60 ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีหน้าคาดว่าจะยังทรงตัวจากปีนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมกล้องถ่ายภาพก็ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากคนรุ่นใหม่นิยมใช้มากขึ้น แม้ว่ากำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวดี โดยยังต้องดูนโยบายของภาครัฐด้วยว่าจะมีการส่งเสริมหรือกระตุ้นกำลังซื้อได้มากน้อยเพียงใด