น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) กล่าวว่า บริษัทปรับลดรายได้ปีนี้เหลือโตราว 5% จากเดิมคาดโต 10% จากปีก่อน หลังได้รับผลกระทบจากปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ อย่างไรก็ตามบริษัทได้เริ่มปรับตัวตั้งแต่เดือนต.ค.59 โดยเน้นเจาะกลุ่มโรงแรมขนาดเล็กตามหัวเมืองใหญ่มากขึ้น ขณะที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนมีเพียง 15% ส่วนสัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 15% และสหรัฐอยู่ที่ 11% ส่วนที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 คาดจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/58 ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าอัตราการเข้าพักน่าจะลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 79% จากปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 81% ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ทั้งปีจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80%
ส่วนในปี 60 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตได้ราว 10% เป็นไปตามการขยายโรงแรมราคาประหยัด HOP INN โดยวางบลงทุนรวมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายโรงแรม HOP INN ในประเทศเพิ่มอีก 7 แห่ง ใช้งบลงทุนแห่งละ 65 ล้านบาท ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ จะขยาย 1 แห่งในกรุงมะนิลา ช่วงไตรมาส 3/60 หลังจากในเดือนธ.ค.59 จะดำเนินการเปิดโรงแรมดังกล่าว จำนวน 1 แห่ง
ส่วนแผน 5 ปี (59-63) ตั้งเป้าหมายเปิดโรงแรม HOP INN ที่ฟิลิปปินส์ เพิ่มเป็น 20 แห่ง โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินงานในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 10% ของรายได้รวมของบริษัท ขณะที่ในประเทศไทยตั้งเป้าหมายเปิดโรงแรม HOP INN เพิ่มเป็น 50 แห่ง
"จากสถานการณ์ต่างๆเราได้มีการปรับลดเป้าหมายรายได้ลงมาเหลือเติบโต 5% จากเดิมคาด 10% แต่แผนการพัฒนาโรงแรมในปีนี้เราสามารถทำได้ตามเป้าหมาย และยังสามารถเปิดได้เร็วกว่ากำหนดเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งจะเป็นโรงแรม HOP INN ที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะเปิดในช่วงเดือนธันวาคมนี้ รับช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะทำให้โรงแรม HOP INN ปีนี้จะมีทั้งสิ้น 22 แห่ง และปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 7 แห่ง ส่วนในฟิลิปปินส์ ธันวาคมนี้จะเปิด 1 แห่ง และปีหน้าก็จะเปิดเพิ่มอีก"น.ส.กันยะรัตน์ กล่าว