นายองอาจ ปัณฑุยากร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ออลล่า (ALLA) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือเพื่อรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ประมาณ 324 ล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งถือว่าเป็นช่วงจุดต่ำสุดของบริษัท
ทั้งนี้ คาดว่าตั้งแต่ปี 60 เป็นต้นไป ผลประกอบการของบริษัทจะกลับมาเติบโตได้อย่างโดดเด่นตามการลงทุนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเดินหน้าขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ที่คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมที่อินโดนีเซียได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ขณะที่อินโดนีเซียนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการใช้อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่าง ๆ ที่สูง เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเกาะทำให้มีคลังสินค้า และท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก ซึ่งการขยายตลาดในต่างประเทศจะเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต
สำหรับมูลค่างานในมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นงานเครน และรอกไฟฟ้าสำหรับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตตามความต้องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้ารับงานใหม่ ๆ จากลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ค้าปลีก รถยนต์ โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า เป็นต้น
"ช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่การลงทุนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าในตอนนี้บริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากสัญญาณการลงทุนที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น อันจะเห็นได้จากตัวเลข Backlog ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีอีกหลายงานที่อยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อเข้ารับงานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้เรามั่นใจว่าในปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น"นายองอาจ กล่าว