นายวรสิทธิ อิสสระ ประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์ ผู้จัดการกองทรัสต์และผู้เสนอขายหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SRIPANWA) กล่าวว่า มีแผนที่จะขยายกองทรัสต์ SRIPANWA ใน 5 ปี (59-63) เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากคาดระดับ 3.3 พันล้านบาทในสิ้นปีนี้ หลังจากที่กองทรัสต์เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ของโครงการศรีพันวา เฟส 2 มูลค่าลงทุน 1.3 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมองโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ จากการที่บริษัทในเครือของบมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) จะเข้าไปซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อโรงแรมไนประเทศอังกฤษ อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีการท่องเที่ยวที่ดีและมีโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโตที่ดีอยู่ด้วย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของการเข้าซื้อโรงแรมในต่างประเทศในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
"การลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศที่จะเข้ามาในกองทรัสต์ของศรีพันวาในอนาคต ตอนนี้ผมก็ศึกษาดูการเข้าซื้อโรงแรมในอังกฤษที่มีความน่าสนใจ เพราะค่าเงินปอนด์ลดลงมามาก และเป็นประเทศที่มีฐานลูกค้าเอเชียเดินทางไปท่องเที่ยวมาก โรงแรมที่อังกฤษที่ดูอยู่เป็นโรงแรมที่ไม่ใหญ่มาก จำนวนห้องไม่เกิน 100 ห้อง และอยู่ในลอนดอน ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่สนใจก็มีอิตาลีและญี่ปุ่น โดยการลงทุนซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศจะต้องให้เครือชาญอิสสระเป็นผู้ลงทุน เพราะกองทรัสต์ลงทุนเองจะต้องใช้เวลานานมากอย่างน้อย 1 ปี ทำให้คนขายอาจเปลี่ยนใจได้"นายวรสิทธิ กล่าว
อนึ่ง กองทรัสต์ SRIPANWA เป็นทรัสต์กองแรกที่แปลงสภาพจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) โดยเตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์ทั้งสิ้นจำนวน 279,064,000 หน่วย ให้กับ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. การเสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่กองทุนรวม SPWPF เพื่อแลกกับทรัพย์สินและภาระของกองทุนรวม SPWPF จำนวน 200,183,000 หน่วย (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแปลงสภาพกองทุนรวม SPWPF เป็นกองทรัสต์ SRIPANWA)
2. การเสนอขายหน่วยทรัสต์ SRIPANWA อีกจำนวน 78,881,000 หน่วย แก่ประชาชนทั่วไปแบบเฉพาะเจาะจง (PPO) ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมของ SPWPF ที่มีรายชื่อในวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วย ณ วันที่ 14 พ.ย. 59 โดยจัดสรรในอัตราส่วน 2.5378 หน่วยลงทุนของกองทุนรวม SPWPF ต่อ 1 หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ SRIPANWA ที่ราคาหน่วยละ 10.80 บาท โดยจองซื้อหน่วยทรัสต์ได้ในวันที่ 25 และ 28-29 พ.ย. นี้ ตามสัดส่วน และหากมีหน่วยทรัสต์ SRIPANWA เหลือจัดสรรก็จะเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของเจ้าของทรัพย์สินและบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน นักลงทุนสถาบัน รวมถึงผู้มีอุปการคุณ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. และ 1-2 ธ.ค.
นายวรสิทธิ กล่าวว่า การขยายขนาดกองทรัสต์ SRIPANWA ให้ได้ตามแผน 5 ปีนั้น บริษัทจะเข้าลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของกลุ่ม CI และสินทรัพย์นอกกลุ่ม CI ทั้งในและต่างประเทศ โดยในเบื้องต้นบริษัทคาดว่าในตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไปจะมีสินทรัพย์ที่เข้าลงทุน ได้แก่ โรงแรม บาบาบีช คลับ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต ชะอำ-หัวหิน มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ และโรงแรมในโครงการ Baba Beach Club พังงา ที่ได้ร่วมทุนกับบริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท จำกัด โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงเดือนมิ.ย.60 และคาดว่าจะใช้เวลาให้โรงแรมทั้ง 2 แห่งมีรายได้เข้ามาก่อนอย่างน้อย 1 ปี ก่อนการเข้าลงทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าลงทุนได้ตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป
ด้านแนวโน้มของผลการดำเนินงานกองทรัสต์ SRIPANWA ในปี 60 คาดว่าอัตราการเข้าพัก (OCC) ของโรงแรมศรีพันวาจะเพิ่มเป็น 70% จากปีนี้ที่ 58% เพราะหลังจากที่โรงแรมศรีพันวา เฟส 2 ชื่ออาคารฮาบิตะ 2 อาคาร เป็นอาคารโรงแรมที่มีห้องพักแบบเพนท์เฮาส์จำนวน 10 ยูนิต และพูล สวีท จำนวน 20 ยูนิต แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) ไปแล้วเมื่อเดือนม.ค.59 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทสามารถเปิดบริการห้องพักในโรงแรมศรีพันวา เฟส 1 ได้อย่างเต็มที่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาต้องปิดห้องพักบางห้องในเฟส 1 ไป เนื่องจากติดปัญหาเสียงรบกวนจากงานก่อสร้าง ส่งผลให้อัตรการเข้าพักปีนี้ลดลงจากปกติที่เฉลี่ย 60% เล็กน้อย
ขณะเดียวกันในปี 60 บริษัทจะปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักของโรงแรมศรีพันวาเฉลี่ย 5-8% จากปีนี้ที่ได้ปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักไปแล้วเฉลี่ย 5% โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.1 หมื่นบาท/ห้อง/คืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเติบโตของรายได้ให้กับโรงแรมและกองทรัสต์ SRIPANWA ในปี 60 ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่าปีนี้ที่โต 13% จากปีก่อน
ทั้งนี้ มั่นใจว่านักท่องเที่ยวยังคงมีการเข้าพักในโรงแรมศรีพันวาอย่างต่อเนื่อง เพราะทำเลและบรรยากาศที่ดี รวมถึงมีการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมและห้องพักที่ครบครัน ประกอบกับมีทีมงานบริหารการขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาพักในโรงแรมได้มาก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาพักในโรงแรมศรีพันวาเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 25% นักท่องเที่ยวชาวไทย 22-23% และที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวยุโรป อาหรับ ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ตามลำดับ
นายธนเดช โอภาสยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กองทรัสต์ SRIPANWA กล่าวว่า กองทรัสต์ SRIPANWA จะเข้าซื้อและรับโอนทรัพย์สินที่ลงทุนครั้งแรกในกองทุนรวม SPWPF ได้แก่ โครงการโรงแรมส่วนที่ 1 จำนวน 45 ยูนิต ประกอบด้วย บ้านพักแบบวิลล่าหรูพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว (Pool Villa) จำนวน 38 ยูนิต และห้องพักในโรงแรมหรูพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว (Pool Suite East) จำนวน 7 ยูนิต บนที่ดิน 21 ไร่ 2 งาน 55 ตารางวา ในตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท
ขณะเดียวกัน กองทรัสต์ SRIPANWA จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ประกอบด้วย โครงการโรงแรมส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นห้องพักโรงแรมหรู 2 อาคาร จำนวน 30 ห้องพัก ที่ตั้งอยู่ภายในอาคารเดอะฮาบิตะ ซึ่งเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) เมื่อเดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมา และบ้านพักตากอากาศ X29 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 1 หลัง บนที่ดิน 6 ไร่ 0 งาน 50.6 ตารางวา ในตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มูลค่าลงทุนราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นการใช้เงินจากการกู้ยืมสถาบันการเงินราว 400 ล้านบาท และเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยทรัสต่ SRIPANWA อีก 900 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ากองทรัสต์ SRIPANWA จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ไนช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธ.ค.นี้ แทนกองทุนรวม SPWPF ซึ่งกองทรัสต์ SRIPANWA คาดว่าอัตราผลตอบแทนให้กับนักลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 6.75% ต่อปี ด้านนางวิไล อินทรกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ประเภทของกรรมสิทธิ์สินทรัพย์ที่กองทรัสต์ SRIPANWA จะเข้าลงทุนจะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของ (Freehold) ก่อน ซึ่งปัจจุบันสินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทรัสต์ลงทุนและจะเข้าลงทุนเพิ่มเป็น Freehold 100% ส่วนการลงทุนในต่างประเทศจะต้องดูในรายละเอียดอีกทีว่าที่ดินจะเป็นกรรมสิทธิ์แบบ Freehold หรือการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ส่วนโครงการในอนาคตของโรงแรมศรีพันวา ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุนในเฟส 3 ที่มีที่ดินในโครงการศรีพันวาเหลืออีก 9 ไร่ ซึ่งหากมีการพัฒนาแล้วเสร็จ กองทรัสต์ SRIPANWA ก็จะเข้าลงทุนซื้อสินทรัพย์ในเฟส 3 เข้ามาบริหารเช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่ากองทรัสต์ SRIPANWA จะไม่มีการเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมในปี 60
สำหรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของกองทรัสต์ SRIPANWA อาจจะมีการปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินปันผลเป็น 2 ครั้ง/ปี จากเดิมที่ระบุไว้ว่าจะมีการจ่ายเงินปันผล 1 ครั้ง/ปี ซึ่งจะมีการพิจารณาตามความเหมาะสม และหลังจากการเสนอขายหน่วยทรัตส์ SRIPANWA แล้วเสร็จสัดส่วนการถือหุ้นของ CI จะยังอยู่ที่ 30% ซึ่งทาง CI จะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นในกองทรัสต์ SRIPANWA อยู่ที่ 30% ในอนาคต ส่วนนักลงทุนสถาบันคาดว่าจะยังถือหุ้นในกองทรัสต์ SRIPANWA อยู่ในระดับ 40% เท่ากับปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ