นายกฤช ชัยเรืองยศ ผู้จัดการฝ่าย ฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า บริษัทฯคาดกำไรก่อนภาษี ดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 60 น่าจะใกล้เคียงเมื่อเทียบกับปีนี้ที่คาดจะทำได้ 18,000 ล้านบาท จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นราว 30 วัน ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. 60 ขณะที่คาดค่าการกลั่นรวม (GIM) ปีหน้าจะอยู่ที่ 13-14 เหรียญ/บาร์เรล จากปีนี้ 13 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบปี 60 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 52-57 เหรียญ/บาร์เรล จากปีนี้น่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดจะมีความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้าราว 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ซัพพลายจะอยู่ที่ระดับ 8 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าดีมานด์จะมากกว่าซัพลาย จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนงบลงทุนปีหน้าจะใช้ราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการลงทุนต่อเนื่องของโครงการการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีกจำนวน 3 แสนตัน/ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/60
นอกจากนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 ธุรกิจโรงกลั่นดูดีขึ้น โดยปัจจุบันมีค่าการกลั่น GIM อยู่ในระดับ 13 เหรียญ/บาร์เรลแล้ว เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 12.5 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องด้วยเข้าสู่ช่วงของฤดูหนาว และราคาน้ำมันก็ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่ 42-43 เหรียญ/บาร์เรล โดยให้จับตาดูการประชุมของกลุ่มโอเปก ในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ว่าจะมีการลดกำลังการผลิตได้หรือไม่ ซึ่งหากสามารถบรรลุข้อตกลงได้จะส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงราว 5-6 แสนบาร์เรล/วัน
ขณะที่โครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถองค์กรในทุกด้าน จะสามารถสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีนี้ได้เพียง 2.3-2.4 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าที่จะทำได้ได้ 3.4 พันล้านบาทในปีนี้ โดย 9 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 1.3 พันล้านบาท หลังโครงการ UHV ล่าช้ากว่าแผนโดยมาเปิดดำเนินการได้ในเดือนก.ค.59 จากเดิมที่ต้องเดินเครื่องผลิตในไตรมาส 1/59 แต่คาดว่าจะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าในปี 61 จะส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท