นายประสิทธิ์ ฉลองชัยชาญ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวว่าการที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี กลับมานำเข้าไก่สดจากประเทศไทยอย่างเป็นทางการจะช่วยสนับสนุนภาพรวมการส่งออกไก่สดของไทยขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟก็ได้รับสัญญาณที่ดีจากลูกค้าเดิม ซึ่งเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ไก่ของบริษัทอยู่แล้ว ทยอยกลับมาสั่งซื้อมากขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยในเนื้อไก่ ของซีพีเอฟมีมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งบริษัทยังมีความพร้อมในด้านกำลังการผลิตที่จะรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น
“การประกาศดังกล่าวจะช่วยขยายตลาดส่งออกไก่สดของซีพีเอฟได้ในระดับหนึ่งทีเดียว และการที่ประเทศไทยมีระยะทางที่ใกล้กว่าประเทศคู่แข่งอย่างสหรัฐอเมริกา และบราซิล เมื่อประกอบกับแรงงานที่มีฝีมือปราณีตกว่า ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าในเกาหลีใต้ทราบดี" นายประสิทธิ์กล่าว
ปัจจุบัน เกาหลีใต้นำเข้าไก่สดจากบราซิลมากที่สุด รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป แต่ผลิตภัณฑ์ของไทยมีข้อได้เปรียบตรงที่ ผลิตภัณฑ์ไก่สดของไทยเป็นเนื้อถอดกระดูก ตัดแต่งชิ้นส่วนตามที่ต้องการ ประกอบกับแรงงานไทยมีฝีมือดี และปราณีต ขณะที่ผลิตภัณฑ์ไก่สดจากบราซิลเป็นเนื้อถอดกระดูกเท่านั้น ส่วนผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกาเป็นเนื้อติดกระดูก
ด้านนายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่าการที่เกาหลีใต้กลับมาเปิดตลาดนำเข้าไก่สดจากไทย จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทย คาดภายใน 2-3 ปี ยอดขายส่งออกไก่สดไทยในตลาดเกาหลีใต้จะทยอยเพิ่มขึ้นถึง 40,000 ตัน ช่วยนำรายได้เข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านบาทได้ โดยคาดว่าสินค้าล็อตแรกจะส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนม.ค.60