(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงแนวเดียวภูมิภาคเหตุดอลลาร์แข็งค่า-จับตา GDP ไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 21, 2016 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงบ้าง เนื่องจากโมเมนตัมกรณีเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าและทำ New High แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลงก็จะทำให้คนกล้าเข้าลงทุนมากขึ้น อีกทั้งเก็งว่าธนาคารกลางหลายประเทศอาจเข้าแทรกแซงค่าเงินหากได้รับผลกระทบจากดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป ดังนั้น ภาพสัปดาห์นี้ก็มองว่าคงเป็นลักษณะของการปรับตัวลงสลับรีบาวด์

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเด่นก็ยังคงเป็นกลุ่ม Commodity โดยเฉพาะน้ำมัน เพราะในวันที่ 30 พ.ย.นี้ก็จะมีการประชุมของกลุ่มโอเปก คงต้องดูว่าจะหารือเรื่องใดบ้าง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ยืนในแดนบวกได้

ส่วนบ้านเราให้ติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยไตรมาส 3/59 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์จะประกาศเช้านี้ หากออกมาดีก็จะช่วยหนุนตลาด อีกทั้งมองว่าแรงซื้อจากกองทุน LTF และ RMF น่าจะช่วยประคองตลาดฯได้บ้าง แม้ต่างชาติจะยังคงขายอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,455 จุด ส่วนแนวต้าน 1,488 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 พ.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,867.93 จุด ลดลง 35.89 จุด (-0.19%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,321.51 จุด ลดลง 12.46 จุด (-0.23%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,181.90 จุด ลดลง 5.22 จุด (-0.24%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 70.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 31.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.99 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.38 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 พ.ย.59) 1,473.86 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด (+0.00%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 739.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 พ.ย.59) ปิดที่ 45.669 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 พ.ย.59) ที่ 7.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.55 แนวโน้มอ่อนค่า จากแรงกดดันดอลล์แข็ง
  • คลังจะเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงค์ รมว.คลัง พิจารณา 3 มาตรการ คือ มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท/ปี เพิ่มเติมจากปกติที่ลดหย่อนได้ 1.5 หมื่นบาทอยู่แล้ว ทำให้ทั้งปีขอลดหย่อนได้ 3 หมื่นบาท มาตรการที่ 2 ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท

และ มาตรการสุดท้าย คือ ยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางและน้ำหอม (ช็อปปิ้ง พาราไดซ์) เพื่อช่วยอุตสาหกรรมเครื่องสำอางที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ลดลง โดยจะมีภาษี 2 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต หากเป็นสินค้านำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเหลือ 0% แต่หากเป็นการผลิตภายในประเทศจะได้รับการยกเว้นภาษีในอัตราเดียวกัน

  • สมาคมโรงแรมไทยและสมาคมธุรกิจไทย-จีน จะหารือร่วมกันเพื่อทำหนังสือชี้แจงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์หน้าถึง ผลกระทบจากนโยบายการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ เนื่องจากส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยเป็นลูกโซ่ไปยังธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME ไตรมาส 3 ทรงตัว SME ยังห่วงภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แต่ความเชื่อมั่นในอนาคตดีขึ้น จับตาปัจจัยปีหน้า หวังตลาด e-commerce หนุน SME ขยายตัว
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รมว.คลัง สั่งเร่งรัดหน่วยงานกระทรวงเสนอกฎหมายสำคัญที่ยังค้างอยู่ให้ทันรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่จะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใน 2 เรื่องสำคัญ คือ การยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)
  • กฟผ.โอดรัฐบาลหั่นงบลงทุนปี 60 เหลือ 50,000 ล้านบาท หลังเผยผุดโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพาไม่คืบ พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบสายส่ง ฟุ้งไตรมาสแรกปีหน้าสามารถเบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SQ (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 4.90 บาท กำไร 9 เดือนแรกปี 59 เด่นสูงกว่ากำไรทั้งปีของปีก่อน คาดได้แรงหนุนรับรู้โครงการใหม่ดันกำไรทั้งปีเติบโตก้าวกระโดด พร้อมมองแนวโน้มรายได้ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจากการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นของโครงการใหม่ มี upside จากงานโรงไฟฟ้าในลาว เหมืองอื่น นอกจากนี้ มองน่าสนใจจากกระแสเงินสดที่มั่นคง กำไรเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง
  • COM7 (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท ภาครัฐฯเตรียมนโยบายช้อบช่วยชาติปลายปีนี้ โดยเฉพาะการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท คาดเป็นบวกต่อยอดขายสินค้าใน Q4/59 ที่ปกติเป็น High season อยู่แล้ว นอกจากนี้ คาดแนวโน้มผลงาน Q4/59 ทำนิวไฮต่อเนื่องจาก iPhone7 และรับผลบวกจากการเป็นพันธมิตร TRUE เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกไตรมาส อีกทั้งการเข้าซื้อหุ้นบานานาชัวร์เพิ่มเป็น 100% พร้อมคาด Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯและเป้าหมายขึ้น
  • ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"ราคาหุ้นมี Valuation น่าสนใจสุดในกลุ่ม Modern trade และมี upside มากที่สุดเมื่อเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 76 บาท ด้วย PE ปี 60 เพียง 20 เท่า ขณะที่กลุ่มอยู่ที่ 25-30 เท่า แนวโน้มยอดขายต่อสาขาเดิมในช่วง ต.ค.-พ.ย.ยังน่าเป็นบวกได้ 0.5-1% Y-Y และจะเปิด 1 สาขาในไตรมาสนี้และอีก 3 สาขาปีหน้า จึงยังคาดกำไรปีนี้ +26% Y-Y ปีหน้า +15% Y-Y
  • TU (ยูโอบี เคย์เฮียน) กำไรปี 60 เติบโต 16.6% สูงสุดในกลุ่มอาหารได้ปรับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน และการเติบโตมีโอกาสดีกว่าคาดจากการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต ดีลล่าสุด Red Lobster ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดบริษัทสามารถพลิกให้ธุรกิจกลับมากำไรได้ในปี 60

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ