พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บมจ.ปตท. (PTT) ดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) แห่งที่ 2 ขนาด 7.5 ล้านตัน/ปี หลังจากเบื้องต้นได้รับอนุมัติสร้างขนาด 5 ล้านตัน/ปี เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้ LNG สูงขึ้น ประกอบกับปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยก็ปรับลดลง นอกจากนี้ยังเห็นว่าการขยายคลัง LNG เป็น 7.5 ล้านตันนั้น จะใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกไม่มากนัก
ส่วนกรณีที่ปตท.จะปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก โดยแยกออกมาตั้งเป็นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) นั้น ทางปตท.ก็ยังทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ขณะเดียวกันปตท.ในฐานะรัฐวิสาหกิจก็ยังจะมีสิทธิควบคุมดูแลบริษัทใหม่ด้วยจึงไม่น่าจะมีปัญหาอย่างใด
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ฯ กำลังการผลิต 5,000 เมกะวัตต์ ที่จะเริ่มทยอยเข้าระบบตั้งแต่ปี 64 นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา โดยอาจเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบออกไปทั้งหมด หรือเลื่อนเฉพาะบางส่วน เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้ายังอยู่ในระดับสูง ซึ่งหากโรงไฟฟ้าของกัลฟ์ฯสามารถเลื่อนเข้าระบบไปก่อนก็จะส่งผลดีต่อภาพรวมระบบไฟฟ้าประเทศ