โบรกแนะซื้อหุ้น บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) มองกำไรปี 59 จะเติบโตกว่าระดับ 880 ล้านบาทในปีก่อน หลัง 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิแล้ว 1.15 พันล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีจะคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับไม่ต่ำกว่า 20% ขณะที่ประเมินแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 4/59 จะดีกว่าไตรมาส 3/59 เล็กน้อย แม้ว่าฤดูฝนหมดไปแต่การก่อสร้างในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะยังไม่เริ่มจนกว่าฤดูเกี่ยวข้าวจะเสร็จสิ้นลงในเดือนพ.ย.59
นอกจากนี้ยังได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกในไตรมาส 4/59 จากในไตรมาส 3/59 มีสาขาทั้งสิ้น 43 สาขา ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายปรับตัวขึ้น ขณะที่ปี 60 จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 7 สาขา เพื่อตอบสนองต่อภาวะตลาดที่ดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่สูง ทำให้มีลูกค้าที่เริ่มก่อสร้างและตบแต่งปรับปรุงบ้านเข้ามาต่อเนื่อง ก็จะช่วยขับเคลื่อนให้ยอดขายเติบโตขึ้น และผลักดันให้กำไรสุทธิเติบโตดีต่อเนื่องด้วย
ราคาหุ้น GLOBAL ช่วงบ่ายอยู่ที่ 16.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+3.05%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยบวก 0.55%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ไทยพาณิชย์ ซื้อ 20.00 บัวหลวง ซื้อ 18.10 เคจีไอฯ ซื้อ 17.00 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 17.20 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ยอดขายสาขาเดิมของ GLOBAL ในไตรมาส 4/59 ยังมีแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 3/59 แต่ไม่มากนัก แม้ว่าฤดูฝนหมดไปแต่การก่อสร้างในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะยังไม่เริ่มจนกว่าฤดูเกี่ยวข้าวจะเสร็จสิ้นลงในเดือน พ.ย.59 แต่คาดว่า GLOBAL จะรักษาอัตรากำไรได้ไม่ต่ำกว่า 20% โดยได้ปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 20bp ในปี 59 และปี 60 และปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารขึ้น 3% ในปี 59 และ 5% ในปี 60 ส่งผลให้ประมาณการกำไรถูกปรับลง 3% ในปี 59 และ4% ในปี 60 อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะปรับลดประมาณการกำไรลง แต่ GLOBAL น่าจะยังคงมีอัตรากำไรเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีของ 3 ปีที่สูงถึง 40% ในปี 59-61 เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20% นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ GLOBAL ในปี 59 ขึ้นอีก 10.4% เป็น 1.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 880 ล้านบาท และได้ปรับสมมติฐานสำคัญคืออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เป็น 19.2% จากก่อนหน้าที่คาดไว้ที่ 18.2% จากการที่บริษัทสามารถรักษาสัดส่วนสินค้า house brand ต่อยอดขายเอาไว้ได้ที่ 12-13%, การมีอำนาจต่อรองกับ supplier เพิ่มขึ้นและอานิสงส์จากราคาเหล็กที่ขยับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรก ทั้งนี้การเปิดสาขาใหม่อีก โดยในไตรมาส 3/59 มีสาขาทั้งสิ้น 43 สาขาและจะเปิดเพิ่มอีกในไตรมาส 4/59 ซึ่งจะช่วยชดเชยสมมติฐานการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิมที่ปรับลดลงมาเหลือ 2.0% จากก่อนหน้านี้ที่ 3.5% จากผลกระทบของการที่ฤดูฝนมาเร็วในปีนี้ นอกจากนี้ในปี 60 ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้นอีก 8.2% เป็น 1.4 พันล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 8.6% จากปี 59 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการปรับเพิ่มสมมติฐาน GPM เป็น 19.3% จากเดิม 18.3% เนื่องจากผลบวกจากการดำเนินกลยุทธ์หลักให้การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรดี โดยบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า house brand เป็น 15% รวมถึงจำนวนสาขาที่มากขึ้นก็ทำให้บริษัทมีอำนาจต่อรองและได้ rebate จาก suppliers มากขึ้น ส่วนการขยายสาขาใหม่ ในปีหน้าคาดจะเพิ่มอีก 7 สาขาเพื่อตอบสนองต่อภาวะตลาดที่ดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่สูงซึ่งทำให้ลูกค้าของ GLOBAL เริ่มก่อสร้างและตบแต่งปรับปรุงบ้านก็น่าจะช่วยให้ยอดขายของสาขาเดิมโตได้ถึง 3% และขับเคลื่อนให้ยอดขายโตถึง 13.8% เป็น 2.15 หมื่นล้านบาทในปี 60 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปรับประมาณการกำไรของ Global เพิ่มขึ้น 5% ในปีนี้จากคาดกำไรปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/59 จากไตรมาส 3/59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 284 ล้านบาทเป็นไปตามการขยายสาขาและยอดขายของสาขาเดิมที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับปีหน้าก็ได้มีการปรับประมาณการกำไรเพิ่มอีก 14% หรือจะเติบโตอย่างโดดเด่นที่ 29% จากปีนี้เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดทั้งในปี 59-60 และค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่าคาดในปีหน้า ขณะเดียวกันคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติให้เปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี เรื่องการวิธีบันทึกบัญชีมูลค่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จากวิธีตีราคาใหม่เป็นวิธีตามราคาทุน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 60 เป็นต้นไปโดยประเมินได้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลทำให้ค่าเสื่อมราคาของ Global ลดลง และจะหนุนให้กำไรปี 60 เพิ่มขึ้นได้อีก 200 ล้านบาท