นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 60 เติบโตราว 6-8% จากปีนี้ที่มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 15% จากปี 58 ที่มีรายได้ 26,621.15 ล้านบาท
การเติบโตที่ชะลอลงเป็นผลมาจากปีนี้บริษัทมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่เพียง 1 แห่งที่ จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงในปีหน้าจะปิดปรับปรุงสาขาเดิมทั้งหมด 5 แห่ง คือ เซ็นทรัลพัทยา , เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต , เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา และเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเฉพาะการปิดปรับปรุงเซ็นทรัลเวิลด์ จะมีผลกระทบต่อภาพรวมรายได้ของบริษัทมากที่สุด โดยมีแผนจะทยอยปรับปรุงตั้งแต่ไตรมาส 1/60 และจะปิดพื้นที่มากที่สุดในช่วงไตรมาส 3/60 ซึ่งจะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ของเซ็นทรัลเวิลด์หายไปราว 20%
อย่างไรก็ตาม ในปี 61 ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากจะมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่อีก 3 แห่งในปี 60 คือใน จ. นครราชสีมา, อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร และ จ.ภูเก็ต รวมทั้งมีโครงการในต่างประเทศ คือ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ในเมืองชาห์อลัม รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 60% คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 61
พร้อมกันนี้โครงการที่ปิดปรับปรุงไปในปี 60 ก็จะกลับมารับรู้รายได้ในปี 61 เช่นกัน
ปัจจุบัน CPN มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารรวม 30 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13 โครงการ ส่วนต่างจังหวัดมี 17 โครงการ นอกจากนั้น ยังมีอาคารสำนักงานให้เช่า 7 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง และอาคารที่พักอาศัย 1 โครงการ
สำหรับแผนการขยายสาขาต่อจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ยังได้ศึกษาลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศไปพร้อมกันด้วย โดยเฉพาะในเวียดนาม หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนาม รวมทั้งศึกษาการลงทุนในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และกลุ่ม CLMV
"ในช่วงไตรมาส 4/59 เรายังคงคาดการณ์ได้ยากว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราต้องกลับมาปรับกิจกรรมต่างๆเพื่อที่จะให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกิจกรรมลานเบียร์ กิจกรรมเคาน์ดาวน์ ก็ต้องปรับใหม่หมด ซึ่งรายได้ของอีเว้นท์ต่าง ๆคิดเป็น 5% ของรายได้รวม อย่างไรก็ตามช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาก็พบว่าประชาชนยังมาจับจ่ายใช้สอย"นางสาวปัทมิกา กล่าว
ด้านนางทิพาพรรณ ภัทรวิกรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บลจ.ไทยพาณิชย์ ผู้บริหารกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการกรมสรรพากรประกาศขยายระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ลดภาษี และค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่จะแปรสภาพเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
ช่วงที่ผ่านมาภาคเอกชนและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ได้ส่งหนังสือไปสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว คาดว่าจะมีการประกาศผลภายในสิ้นปีนี้ และหลังจากนั้นคาดว่าจะปรับเปลี่ยนได้ทันในครึ่งแรกปี 60 โดยมูลค่ากอง CPNRF มีมูลค่าอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท และยังไม่มีแนวโน้มนำทรัพย์สินเข้ากองเพิ่ม เนื่องจาก CPN มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ค่อนข้างต่ำ