โบรกเกอร์ประสานเสียงแนะนำ"ซื้อ" หุ้นบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มองเป็นหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโต แม้ในเดือนต.ค.จะได้รับผลกระทบช่วงสั้น และกำไรในไตรมาส 4/59 จะต่ำกว่าไตรมาส 3/59 แต่ก็ยังเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/58
รวมทั้งปรับประมาณการ ปี 59 เพิ่มขึ้น 3% เป็น 2.77 หมื่นล้านบาท และกำไร เพิ่มขึ้น 7% เป็น 9.2 พันล้านบาท ส่วนปี 60 ปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 11% เป็น 3.16 หมื่นล้านบาท และกำไรเพิ่มเป็น 1.04 หมื่นล้านบาท โต 16%
ในปี 60 CPN มีแผนเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง คือ นครราชสีมา (ก.ย.) มหาชัย (พ.ย.) และ ภูเก็ต (ธ.ค.) ส่วนปี 61 จะเปิด 3 แห่ง โดยหนึ่งในนั้นจะเปิดที่มาเลเซีย Central i-city Malaysia (ต.ค.61) รวมทั้งมีการปรับปรุงศุนย์เดิมปีหน้าอีก 5 แห่ง ทำให้ CPN ยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนการแปลงสภาพ CPNRF ไปเป็น REIT น่าจะเกิดขึ้นในปี 60
อีกทั้งราคาหุ้น CPN ได้ปรับตัวลงสะท้อนข่าวลบแล้ว ตอนนี้ยังมีอัพไซด์ จึงน่าลงทุน
ราคาหุ้น CPN ปิดเที่ยงวันนี้อยู่ที่ 54.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวานนี้
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) เคจีไอ ซื้อ 77.00 โกลเบล็ก ซื้อ 75.00 โนมูระพัฒนสิน ซื้อ 75.00 ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 69.00 กสิกรไทย ซื้อ 68.00 เมย์แบงก์กิมเอ็งฯ ซื้อ 67.00 คันทรี่กรุ๊ป ซื้อ 63.00 ทิสโก้ ซื้อ 62.00
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวแนะนำซื้อหุ้น CPN เพราะยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 75 บาท และมองว่ารายได้และกำไรของ CPN ในอนาคตมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง โดยด้ปรับประมาณการรายได้และกำไรในปี 59-60 เนื่องจากในงวด 9 เดือนปี 59 CPN รายงานกำไร 7.02 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% yoy ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 82% ของกำไรที่ประมาณการไว้ที่ 8.5 พันล้านบาท เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายการบริหารได้ดี
ทั้งนี้ ปี 59 ได้ปรับประมาณการายได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 2.77 หมื่นล้านบาท และกำไร เพิ่มขึ้น 7% เป็น 9.2 พันล้านบาท ส่วนปี 60 ปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 11% เป็น 3.16 หมื่นล้านบาท และกำไรเพิ่มเป็น 1.04 หมื่นล้านบาท โต 16%
อย่างไรก็ดี คาดว่า กำไรในไตรมาส 4/59 จะลดลง จากไตรมาส 3/59 เพราะจำนวนลูกค้าเข้าใช้บริการศูนย์การค้าลดลง แต่เพิ่มขึ้น 13% yoy
ด้าน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า CPN เป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง รายได้ค่าเช่าเติบโตสม่ำเสมอ มีประสิทธิภาพการดำเนินงานสูง อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 30% แนวโน้มการเติบโตมีเสถียรภาพจากทั้งศูนย์การค้าเดิมที่มีอัตราเข้าเช่าสูง และสามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ตามสัญญา อีกทั้งเปิดศูนย์การค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง นอกจากนั้น ยังมีโอกาสเติบโตจากการเริ่มขยายไปยังต่างประเทศ คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไร (CAGR) ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เท่ากับ 15% ต่อปี
แต่ในระยะสั้น แม้มีการงดจัดกิจกรรมการตลาดตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ต.ค.แต่คาดว่าผลกระทบจำกัดต่อกำไรในไตรมาส 4/59 ปัจจุบันกิจกรรมบางประเภทได้กลับมาจัดตามปกติ อัตราเข้าเช่ายังอยู่ในระดับสูง การปรับขึ้นค่าเช่ายังเป็นไปตามปกติ อีกทั้งศูนย์การค้าพัทยาเซ็นเตอร์กลับมาเปิดในเดือน ธ.ค.ดังนั้น คาดกำไรในไตรมาส 4/59 ยังเติบโต YoY
ส่วนการแปลงสภาพ CPNRF ไปเป็น REIT น่าจะเกิดขึ้นในปี 60 ผลประกอบการปี 60 มีแนวโน้มเติบโตในอัตราลดลงจากการปรับปรุงเซ็นทรัลเวิล์ด อีกทั้งศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่งจะเปิดในครึ่งหลังปี60 ทั้งหมด อย่างไรก็ดี กำไรจะกลับมาเติบโตสูงในปี 61
นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ชอบปัจจัยพื้นฐานของ CPN จากความเป็นผู้นำในธุรกิจพื้นที่เช่า และการมี synergy ร่วมกับแบรนด์ในเครือ นอกจากนี้ ด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ปัจจุบันเรามองว่าตลาดอาจมีความกังวลมากเกินไปต่อการงดจัดงานรื่นเริงเพราะมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด อีกทั้งคาดรายได้จาก consignment ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายเสื้อผ้าดำจะช่วยลดผลกระทบนี้ได้อีกบางส่วน
ขณะเดียวกับ CPN ยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องตามแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ปีละ 3 แห่งในปี 60 -61 โดยปี 60 มีแผนเปิด 3 แห่ง คือ นครราชสีมา (ก.ย.) มหาชัย (พ.ย.) และ ภูเก็ต (ธ.ค.) ส่วนปี 61 จะเปิด 3 แห่ง ได้แก่ Central i-city Malaysia (ต.ค.61) และอีก 2 แห่งยังไม่ประกาศ ส่วนปี 62-63 จะเปิดอีก 5 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ในปี 60 จะมีการปรับปรุงศูนย์การค้า 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ , พระราม 3 , พระราม 2, เชียงใหม่แอร์พอร์ต และ ภูเก็ต