นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองปรธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปี 60 จะเติบโตดีกว่าปีนี้ โดยอัตรากำไรขั้นต้นก็น่าจะดีกว่าปี 59 จากที่ 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 21.63% และมีโอกาสกลับไปใกล้เคียงกับปี 58 ที่ 26.37% จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาที่สูงกว่า 20 เซนต์/ปอนด์ จากปีนี้เฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 17-18 เซนต์/ปอนด์ เป็นผลจากความต้องการบริโภคสูงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน อินเดีย และอาเซียน เป็นต้น
ขณะที่บริษัทจะเริ่มเปิดหีบอ้อยสำหรับฤดูการผลิตปี 59/60 ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้ง 3 โรงงาน คือ เกษตรไทย รวมผล และไทยเอกลักษณ์ มากกว่าฤดูการผลิตปี 58/59 ไม่น้อยกว่า 10% หรือมีปริมาณราว 8-8.5 ล้านตันอ้อย ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อคุณภาพของน้ำตาลสูงขึ้นด้วย
"เมื่ออ้อยซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาลทรายและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง มีปริมาณเพิ่มขึ้น ก็จะสามารถผลิตน้ำตาลทรายได้มากขึ้น รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งเยื่อกระดาษ เอทานอล และไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงชีวมลว ก็จะได้ปริมาณมากขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มเคทิส ในปี 60 จะดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน"นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้งหมด 4 แห่ง ขนาดรวมกันกว่า 160 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในปีหน้า รวมถึงธุรกิจเยื่อกระดาษ ที่มองว่าราคาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจน้ำตาล ประมาณ 70%
นายณัฎฐปัญญ์ กล่าวถึงโครงการร่วมลงทุนระหว่าง KTIS และ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ที่มีสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 เพื่อนำผลผลิตอ้อยไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ชีวเคมี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลในเฟสแรกก่อน และจะแล้วเสร็จในปี 61 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ที่ไม่ได้มาจากธุรกิจน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับผลประกอบการในปี 59 บริษัทยอมรับว่ารายได้และกำไรสุทธิน่าจะปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 19,456.54 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 729.95 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้ 12,558.82 ล้านบาท และกำไร 25.87 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ปริมาณอ้อยอ้อย และคุณภาพน้ำตาลลดลง อีกทั้งราคาน้ำตาลก็อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 4/59 มองว่ายอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามราคาน้ำตาลที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าจะมาอยู่ที่ 21-22 เซนต์/ปอนด์ ประกอบกับ ปริมาณการส่งออกน่าจะเติบโตต่อเนื่อง