KTBST ให้กรอบหุ้นไทยวันนี้ 1,487-1,505 จุดแกว่งแคบรอปัจจัยบวกใหม่-จับตาประชุม OPEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 30, 2016 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล. เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (30 พ.ย.) คาดว่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.ที่ชะลอตัว ลดน้ำหนักในทางบวกของตลาดลง ขณะที่นักลงทุนบางส่วน จะรอดูผลการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC )ในช่วงเย็น และคาดว่าดัชนีฯเมื่อสิ้นวันมีแนวโน้มที่จะลดลงจากวันก่อน

"ด้วยทิศทางตลาดที่อ่อนไหวและรอคอยปัจจัยใหม่ๆ การเข้าเก็งกำไรจึงต้องใช้ความระมัดระวัง นักลงทุนที่ต้องการเข้าถือเพื่อลงทุนแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง หุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเอง และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง หุ้นที่มองว่าน่าสนใจในวันนี้ได้แก่ LPH , HANA , TPIPL , SLP มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,487-1,505 จุด"นายมงคล กล่าว

นายงมงคล กล่าว ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรป คืนที่ผ่านมา แกว่งตัวในกรอบแคบ ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 3 รายงานครั้งที่สองของสหรัฐฯ สูงขึ้นจาก 2.9% เป็น 3.2% หนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวสูงขึ้น

เรามองว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศ กำลังรอปัจจัยใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความคืบหน้าของการนำนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯที่ใช้ในการหาเสียงมาใช้ว่าจะทำอย่างใดบ้าง หรือการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ว่าจะขึ้นในลักษณะใด ก่อนหน้าตลาดรับรู้ต่อเรื่องเหล่านี้มาระดับหนึ่งแล้ว หากไม่มีอะไรใหม่ๆ ตลาดจะเริ่มชะลอลง

ขณะที่การลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลี ในวันที่ 4 ธ.ค. เป็นเรื่องที่มีผลต่อตลาดยุโรป และประเทศอื่นๆในทางอ้อม หากประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล(นายกฯ) ซึ่งจะเกิดความกังวลต่อทิศทางของประเทศ รวมไปถึงการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรป ซึ่งการที่ระดับของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) เริ่มทรงตัว บ่งชี้ว่าตลาดกำลังรอข้อมูลใหม่ๆ ที่จะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันจะทำให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เพิ่มความระวังในการออกนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อไม่ให้สวนทางกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ

ส่วนการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในเย็นวันนี้ (30 พ.ย.) มีประเด็นที่ต้องตามคือ 1.) กลุ่ม OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลงจากปัจจุบัน 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่าใด ระหว่าง 0.6-1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน 2.) ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC มีรายใดที่จะปรับลดกำลังผลิต และปรับลงเท่าใด 3.) จะปรับลดเมื่อใด และยาวนานแค่ไหน และ 4.) กลไกในการควบคุมการผลิตน้ำมัน โดยที่การเจรจาที่จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุผลได้ บอกถึงโอกาสที่จะลดกำลังการผลิตลงมากๆ นั้นว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถึงกระนั้นตลาดก็ไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว เราประเมินว่า ถ้าลดน้อยกว่า 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ถ้าลดมากกว่านี้ จะขึ้นเป็น 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนปัจจัยในประเทศ อีกไม่นานน่าจะทราบกำหนดการของการเลือกตั้งทั่วไป ที่กำหนดการเดิม คือปลายปี 60 ในส่วนของตลาดหุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศถึง 3 พันล้านบาท พลิกจากที่ซื้อไปในวันก่อน ทำให้นักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังในการเข้าซื้อหุ้นในวันนี้ เรื่องมาตรการลดภาษี 15,000 บาท สำหรับการท่องเที่ยวเป็นไปตามข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ และราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องต่างสะท้อนข่าวบวกนี้ไปบ้างแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ